เอนโดแคร์ ผลิตภัณฑ์สารสกัดจากเมือกหอยทากมีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน กระตุ้นสีผิวสม่ำเสมอ ลดการหย่อนคล้อยของผิว ลดรอยแดง และการอักเสบของผิว
วิธีใช้ Endocare อย่างถูกวิธี
ด้วย เทคโนโลยี SCA BIO Repair ลิขสิทธิ์เฉพาะ เพื่อให้เซรั่มบำรุงสู่ผิวได้อย่างล้ำลุกเร่ง การซ่อมแซมผิว ลดการอักเสบของผิว รอยแดง และอาการข้างเคียงจากการทำเลเซอร์ ลดการอักเสบของผื่น และบรรเทาอาการบวมแดงของสิว เนื้อเซรั่มจะสัมผัสกับอากาศ ดีที่สุดคือใช้แค่ 1 หลอด ต่อ 1 คืน
1 หลอด ประกอบด้วยเซรั่มเข้มข้น 1 ml. ในกล่องมี 7 หลอด
กล่อง แรก ให้ใช้ Endocare ทุกคืน ติดกันเลย 7 วัน 7 หลอด เพื่อการฟื้นฟูผิวในระยะแรกอย่างต่อเนื่องและเร่งด่วน สำหรับคนที่มีปัญหาผิวมากๆ หรือต้องการฟื้นฟูผิวอย่างเร่งด่วน โดยใช้ทาบนหน้า คลึงนวดเป็นวงกลมให้เซรั่มซึมสู่ผิวได้ดี และเป็นการกระตุ้นให้เซรั่มซึมสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น
กล่องต่อไปให้ใช้ 2-3 วันครั้งก็ได้ค่ะ หรือวันเว้นวัน เช่นใช้ทุกๆ วัน อังคาร และศุกร์
สำหรับคนที่ไม่มีปัญหาผิวหน้า อาจไม่จำเป็นต้องใช้ติดต่อก้นกได้ค่ะ แค่ใช้อาทิตย์ละ 2 วันก็ได้ค่ะ
เหมาะ สำหรับผู้ที่นอนดึก อดนอน หน้าหมองคล้ำ หรือผู้ที่ต้องออกงาน เเละต้องการมีผิวหน้า ดูดี กระจ่างใสโดยไม่ต้องเข้า สปาหน้า หรือ คอร์สทรีทเมนต์ราคาเเพง คุณสามารถทำได้เองที่บ้าน ในราคาหลักร้อย ต้องการฟื้นฟู สภาพผิวหน้าอย่างเร่งด่วน 1 amp(หลอด)ใช้ได้ 1 วัน (สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหนักจริงๆ ควรใช้ติดต่อกัน 7 วัน)
เอนโดแคร์ คือกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ประกอบไปด้วยสารสกัดจากเมือกหอยทากสายพันธุ์ดั้งเดิม ของสเปนที่มีผลวิจัยว่าเป็นสัตว์ที่มี DNA คล้ายกับคนมากที่สุด และเมือกหอยทากมีสารที่ช่วยในการบำรุงและฟื้นฟูผิวได้เป็นอย่างดี สกัดจากเมือกหอยทาก ที่ระดับความเข้มข้น 40 ซึ่งเป็นเซรั่มเข้มข้น อุดมด้วยสารสกัดจาก DNA เมือกหอยทาก ลิขสิทธิ์เฉพาะจาก IFC ประเทศสเปน เพื่อฟื้นฟูและเร่งการซ่อมแซมผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ยกกระชับ และลบเลือนริ้วรอย ด้วยความเข้มข้นของเมือกหอยทาก Repair Index 40 ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน กระตุ้นสีผิวสม่ำเสมอ ลดการหย่อนคล้อยของผิว ลดรอยแดง และการอักเสบของผิวความเข้มข้นของเมือกหอยทาก (SCA) ที่แตกต่างกันในผลิตภัณฑ์ที่แต่ละชนิดจะช่วยในการฟื้นฟูและบำรุงให้ผิวของ คุณมีสุขภาพดียิ่งขึ้นไป
สาเหตุการเกิดสิว
1. ฮอร์โมนแอนโดรเจน (androgens) อย่างที่บอกไปแล้วว่าสิ่งที่เป็นตัวควบคุมการสร้างน้ำมันก็คือฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่พบได้มากในเพศชาย แต่ก็พบได้ในเพศหญิงเช่นกัน โดยช่วงที่ฮอร์โมนแกว่งหรือมีการเปลี่ยนแปลง แต่ละคนก็จะเป็นสิวแบบพีคสุด ๆ อย่างผู้หญิงฮอร์โมนจะแกว่งตอนที่รอบเดือนมาหรือกำลังตั้งครรภ์ ส่วนผู้ชายฮอร์โมนจะพลุ่งพล่านไปตามธรรมชาติ ในช่วงวัยรุ่นหรือในช่วงเครียด ๆ
2. กรรมพันธุ์ของแต่ละบุคคล ทำให้ผิวหนังแตกต่างกันออกไปทั้งโครงสร้างของผิว การสร้างไขมันที่มากหรือน้อยเกินไป ความสามารถในการซ่อมแซมผิวหนังระหว่างการเกิดสิวและการซ่อมแซมเมื่อหายจากอาการของสิวอักเสบแล้ว
3. ชอบวุ่นวายกับใบหน้า เช่น การจับ ลูบ แคะ แกะ เกาใบหน้าอยู่บ่อย ๆ เราต้องอย่าลืมว่ามือเราไปจับอะไรมาบ้างในแต่ละวัน ถ้าเราไม่ได้ล้างหน้ามือเอามาสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ ก็อาจจะก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือนำพาแบคทีเรียมาทำให้สิวที่มีอยู่เกิดการอักเสบได้อีกด้วย, การขัดหน้าบ่อย ๆ อาจกลายเป็นสาเหตุทำให้สิวเห่อได้ เพราะเวลาที่เราขัดหน้า นั่นหมายถึงเรากำลังทำให้ผิวหน้าหนาขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทำให้รูขุมขนตีบลง น้ำมันที่ควรจะออกมาก็ออกมาไม่ได้ (ขัดหน้าได้แต่อย่าบ่อย ถ้าเป็นสิวอยู่ก็ไม่ต้องขัด รอให้หายก่อนดีกว่าแล้วจึงค่อยขัด), การล้างหน้าบ่อยเกินไปหรือมากกว่าวันละ 2 ครั้ง จะเป็นการกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงานมาผิดปกติ, พฤติกรรมบางอย่างที่รบกวนผิวหน้า เช่น บางคนชอบเอามือเสยผม บางคนชอบบีบจมูก ใช้โทรศัพท์แนบกับแก้มขณะสนทนา หรือชอบนั่งเท้าคางหรือแก้มเป็นประจำ เป็นต้น
4. กิจวัตรประจำวันต่าง ๆ เช่น การไม่รักษาความสะอาด, การล้างหน้าหรือเครื่องสำอางไม่สะอาด, การใช้ผลิตภัณฑ์ปกปิดตำหนิต่าง ๆ หรือเครื่องสำอางที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม, การใช้ครีมหรือแป้งที่อาจเป็นต้นเหตุของสิวบนใบหน้า, การสวมหมวกหรือหมวกกันน็อคโดยไม่เคยซักทำความสะอาด, การนอนตะแคงแล้วน้ำลายไหลออกมาด้านข้าง, อาชีพแม่ครัวที่รับได้ควันจากสารพวกไขมันและน้ำมันต่าง ๆ, ช่างเครื่องที่ทำงานกับน้ำมัน, คนที่ใช้กระดาษคาร์บอน เป็นต้น
5. ล้างหน้าผิดวิธี อย่าคิดไปเองว่าแค่การใช้โฟมล้างหน้าปกติจะช่วยทำให้ผิวหน้าของคุณสะอาดแบบหมดจด แม้จะเอามือลูบหน้าแล้วก็ไม่รู้สึกว่ามีความมันหลงเหลืออยู่หรือมีอะไรตกค้าง เพราะเครื่องสำอางที่เราโปะไปบนใบหน้านั้นมันไม่สามารถล้างออกได้ด้วยโฟมล้างหน้าเพียงอย่างเดียว สุดท้ายเครื่องสำอางเหล่านั้นก็จะผสมกับโฟมล้างหน้าจนเกิดการอุดตันจนทำให้สิวผุดขึ้นมา และยังรวมไปถึงคนที่ไม่แต่งหน้า พอหน้ามันแล้วก็ล้างหน้ามันทั้งวัน แทนที่สิวจะหายก็กลายเป็นการกระตุ้นการเกิดสิวเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว
6. ความมันบนใบหน้า ความมันเป็นสิ่งที่สิวชอบมากเป็นอันดับต้น ๆ เมื่อต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาจนทำให้หน้ามัน แล้วเราก็ปล่อยไว้อย่างนั้น โดยไม่หาทางทำความสะอาดออกมา เจ้าน้ำมันก็จะตันอยู่ในรูขุมขน พอมันอยู่นาน ๆ เข้าก็จะไปผสมกับเซลล์ที่ตายแล้วและทำให้เกิดเป็นสิวอุดตันอยู่ในนั้น ซึ่งเจ้าสิวชนิดนี้นี่แหละที่เป็นตัวการสำคัญทำให้มีปัญหาสิวชนิดอื่นตามมาแบบไม่รู้จบ
7. เครียดมากเกินไปแถมนอนดึกอีกต่างหาก นับว่าเป็นพฤติกรรมยอดฮิตของคนเมืองเลยก็ว่าได้ คุณสามารถสังเกตได้เลยว่าในช่วงสอบหรือในช่วงที่ต้องเร่งส่งงาน เราจะมีโอกาสเป็นสิวเพิ่มมากขึ้น นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อเราเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนออกมา ซึ่งฮอร์โมนตัวที่ว่าจะไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น ทำให้ยิ่งเป็นสิวมากขึ้น
8. มลภาวะและแสงแดด สำหรับคนที่ทำงานในห้องแอร์คงไม่ต้องกังวลเรื่องแดดมากนัก แต่ใช่ว่าจะหลบสิวพ้นซะเมื่อไหร่ เพราะการอยู่ในห้องแอร์นาน ๆ จะทำให้ผิวแห้ง และอากาศที่วนเวียนอยู่ในนั้นยังอาจไม่สะอาดเพียงพอจนไปกระตุ้นการเกิดสิวได้ ส่วนคนที่หลีกเลี่ยงแสงแดดไม่พ้น ความร้อนจากแสงแดดจะทำให้น้ำในผิวระเหยออกไป เมื่อหน้าแห้ง ต่อมไขมันก็จะผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้หน้ามันและเป็นสิวเพิ่มในที่สุด และยิ่งสภาพอากาศในบ้านเราที่ทั้งรอนและชื้นแบบนี้ ก็ยิ่งเป็นที่มาของการเกิดสิวผดและสิวชนิดอื่น ๆ ได้อีกด้วย
9. การสูบบุหรี่ มีงานวิจัยหลายงานที่ชี้ว่า การสูบบุหรี่จะทำให้เส้นเลือดตีบ ทำให้ผิวหนังชั้นนอกได้รับสารอาหารและออกซิเจนไม่เพียงพอ เมื่อผิวอันสวยใสของเราได้รับสารอาหารน้อยลง ก็จะทำให้ผิวไม่แข็งแรงพอที่จะฟื้นฟูตัวเองยามสึกหรอ ไม่สามารถป้องกันตัวเองจากแบคทีเรียได้ดีเท่าที่ควร จนทำให้เกิดสิวอุดตันทั้งหัวขาวและหัวดำในที่สุด
10. อาหารที่อาจเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว เช่น สาหร่ายทะเล ผักขม และหอย ซึ่งมีไอโอดีนและฟลูออไรด์นะทำให้เป็นสิวมากขึ้น รวมไปถึงแป้ง น้ำตาล นมและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ที่หากทานมากไปก็อาจทำให้สิวอักเสบกำเริบได้ เนื่องจากในน้ำนมจะมีฮอร์โมนแอนโดรเจน และสารที่เป็นตัวกระตุ้นสิวผสมอยู่ เช่น คาร์โบไฮเดรต, ไอโอดีน, โอเม้ก้า6 เป็นต้น และในปัจจุบันได้มีงานวิจัยออกมายืนยันแล้วว่า “อาหารไม่ใช่ปัจจัยโดยตรงที่ทำให้เกิดสิวได้ แต่สารที่อยู่ในอาหารต่างหากที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิว” หรือในคนมีระบบน้ำเหลืองในร่างกายไม่ดี พอกินอะไรเข้าไปก็อาจมีสิวโผล่บนใบหน้าได้ง่าย และที่สำคัญคนกลุ่มนี้มักไม่รู้ตัวด้วยว่าอาหารและระบบน้ำเหลืองมีความสัมพันธ์กับการเกิดสิว เลยทานอาหารกันอย่างไม่ระมัดระวัง พอเป็นสิวก็ทำเครียด พอเครียดสิวก็เห่ออีก จึงกลายเป็นปัญหาไม่รู้จบนั่นเอง ถ้าคุณเป็นแผลแล้วหายยาก แถมมีหนองแทบทุกครั้งที่เป็นแผล ก็ให้สงสัยไว้ก่อนว่าระบบน้ำเหลืองเราอาจไม่ดี และให้หลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ คือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารทะเล อาหารรสจัด และหน่อไม้
11. ใช้ผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะสม อย่างบางคนเป็นสิวง่ายและแพ้ง่ายอยู่แล้ว แต่ก็ยังเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมทั้งน้ำหอมและแอลกอฮอล์ พอใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มันก็จะเกิดการระคายเคือง แล้วก็จะเป็นสาเหตุของการเกิดสิวนั่นเอง รวมถึงไปคนที่ชอบซื้อสกินแคร์ตามแฟชั่น อยากลองใช้ของใหม่ ๆ ทั่ง ๆ ที่ตัวเองเจอสิ่งที่เหมาะกับเราอยู่แล้ว ก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน
12. ใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมที่อาจทำให้เกิดสิว ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามได้แสดงรายการส่วนประกอบของเครื่องสำอางที่อาจทำให้ใบหน้าที่เนียนสวยกลายเป็นมีสิวได้ โดยเฉพาะกับคนหน้ามัน จะยิ่งกลายเป็นสิวมากขึ้น มีดังนี้ สารสกัดจากสาหร่าย, ลาโนลิน, โกโก้, ไขมะพร้าว, น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันข้าวโพด, น้ำมันถั่วเหลือง, น้ำมันจมูกข้าว, น้ำมันเมล็ดฝ้าย Acetol acetilan, Amberate P, Butyl Sterate, Colloidal Sulfur, Crude coal tar, Decyl oleate, D & C Red #17,21,3, Glyceryl Stearate SE, Isocetyl Stearate, Isopropyl Isostearate, Isopropyl Myristate, Isopropyl Palmitate, Isopropyl lanolate, Isosteary neopentanoate, Lauric 23, 4, Lauric acid, Lanosterin, Langogene, Myristic acid, Octyl Palmitate, Octyl Stearate, Oleth-3, PEG 75 Lanolin, PEG 16 Lanolin, PEG 8 Stearate, Propylene Glycol Monostearate, Sterolan, Sodium Chloridem Sodium Laureth Sulfate, Sodium Lauryl Sulfate, *Crisco, *Hygrogenated Vegetable Oil, *Myristyl myristate, Mink Oil, PG 2 myristyl propionate, *Sulfonated Castor Oil และผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำว่า คุณควรจะระมัดระวังเครื่องสำอางที่มีฉลากเขียนว่า “ได้รับการทดสอบจากผู้ชำนาญด้านความงามแล้ว“, “ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้” และที่ระบุว่า “ผสมตัวยา” เพราะเครื่องสำอางเหล่านี้ยังอาจก่อให้เกิดสิวได้ เพราะยังอาจมีส่วนประกอบที่ทำให้เป็นสิวตามที่ระบุไว้ในรายการนี้ ดังนั้นทางที่ดี คุณควรอ่านฉลากสักนิดว่าเครื่องสำอางนั้นมีส่วนประกอบดังกล่าวและทดสอบว่าเครื่องสำอางนั้นมีน้ำมันหรือไม่
13. อุปกรณ์แต่งหน้าที่หมักหมม ไหนจะแปรงปัดแป้ง แปรงปัดแก้มสารพัดที่เราจะใช้ เมื่อใช้แล้วก็อย่าลืมล้างทำความสะอาดแปรงหลังการใช้ด้วยล่ะ เพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์แต่งหน้ากลายเป็นบ้านของแบคทีเรียจนทำให้เกิดสิว
14. สิ่งประทินผม เช่น สีย้อมผอม แชมพูขจัดรังแค น้ำมันใส่ผม สเปรย์แต่งผม และเหงื่อจากหนังศีรษะ
15. ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ก็อาจทำให้บางคนเกิดเป็นสิวขึ้นบริเวณมุมปากไปจนถึงคางรวมถึงบริเวณใกล้เคียงได้ ซึ่งสิวลักษณะจะค่อนข้างรักษาได้ยากและไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีทั่วไป แต่ถ้าเปลี่ยนมาใช้ยาสีฟันที่ไม่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ อาการของสิวก็จะดีขึ้นเอง
16. ยาบางชนิด ในระหว่างที่เราทานยาเพื่อรักษาอาการหรือโรคที่เป็นอยู่ ยาเหล่านั้นอาจเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้เช่นกัน เพราะยาบาตัวอาจมีสารที่ไปกระตุ้นให้ฮอร์โมนและเคมีในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ เช่น ยาต้านอาการชัก (Hydantoin derivatives, Phenobarbitol, Trimethadione), ยาสำหรับต้านเชื้อวัณโรค (Ethambutol, Ethionamide, Isoniazid), ยาที่มีธาตุในหมู่ฮาโลเจน (Halogen) เป็นส่วนประกอบอย่างคลอไรด์และไอโอดีน, ยาที่มีผลต่อฮอร์โมนโดยตรง อย่าง androgenic hormones (มีผลมากกับผู้หญิง) corticosteroids, depoprovera, DHEA และ oral contraceptives, ยาอื่น ๆ (Antabuse, Dantrolene, Lithium salts, Maprotiline, Psoralens, Quinine, Rifampin, Thiouracil, Thiourea), ยาปฏิชีวนะ, ยาสเตียรอยด์ทั้งชนิดทาและกิน เป็นต้น ถ้าหากคุณกำลังใช้ยาเหล่านี้อยู่ คงต้องทำใจและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาทางแก้ไขกันต่อไป
คุณสมบัติ
- ช่วยลดการอักเสบของผิวที่ติดสารเคมีแรงๆ
- เป็นผื่นแพ้ หรือ ผิวที่ติดสเตรียรอย ควรใช้
- ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ซ่อมแซมและสร้างเซลล์ผิวใหม่
- ช่วยสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน ลดริ้วรอยแห่งวัย ช่วยให้ริ้วรอยตื้นขึ้น
- ผิวหน้าขาวกระจ่างใสเด้งดึ๋ง เรียบเนียน เงา วาว
- ช่วยเรื่องสิว ช่วยลดรอยดำแดงที่เกิดจากสิว
- ในวงการแพทย์สกินยังใช้เซรั่มนี้ จ่ายให้คนไข้ที่ทำเลเซอร์ เพื่อป้องกันการอักเสบ และรอยแดงหลังเลเซอร์
ทำไมต้องใช้เอนโดแคร์
เอนโดแคร์ เป็นเวชสำอางค์ชั้นสูงจาก “สเปน” ซึ่งมาจากการวิจัย เพื่อใช้ในการรักษาและสร้างเซลล์ผิว ฟื้นฟู ซ่อมแซม ผิวใหม่ ให้กับผู้ป่วยด้านผิวหนัง เอนโดนแคร์จะช่วยรักษา เพื่อให้เซลล์ผิวหนังที่เสียหาย ฟื้นฟูกลับมาได้อย่างรวดเร็ว อ่อนโยน และปลอดภัย ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผู้เชียวชาญด้านผิวหนังแล้วว่า
เอนโดแคร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับทุกสภาพผิวแม้ผิวแพ้ง่าย โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง หรือแพ้