วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เอนโดแคร์ รีวิว

รีวิวจากผู้ใช้งานจริง ทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Endocare รีวิว เอนโดแคร์ รีวิว เฮริโอแคร์ รีวิว นีโอเรติน เครื่องาำอางค์ชั้นนำจากทวีปยูโรป

 

เผยเคล็ดลับความสวย!! พร้อมแชร์ประสบการณ์ โดยคุณ แนน ชลิตา (คลิป)

     เพื่อนๆ หลาย คนคงเคยสงสัยกันบ้างว่าอะไรที่ทำ ให้ “คุณแนน ชลิตา” ถึงได้เป็น “ดาราหน้าเด็กตลอดกาล” ที่กาลเวลาไม่สามารถทำอะไรเธอได้ เรียกได้ว่าเมื่อก่อนหน้าเป็นอย่างไรปัจจุบันก็ยังหน้าตึง ผ่องใสอยู่เหมือนเดิม และเมื่อในงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ  Endocare Contrate Seum SCA40 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นานมานี้  คุณแนนก็ได้มาเผยเคล็ดลับที่ว่า พร้อมแชร์ประสบการณ์จากการที่ได้เป็นผู้ใช้  Endocare เสียงจริง ตัวจริง (ไม่ใช่ The Voice นะค๊า >.<) ให้เราได้หายสงสัยกันค่ะ  ส่วนเคล็ดลับของคุณแนนจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นอยากให้เพื่อนๆไปชมในคลิปได้ เลยค่าา

(พร้อมภาพบรรยากาศในงานวันเปิดตัว Endocare SCA40 ที่ดารามากันคับคั่งด้วยค่า ^0^ )


สาวๆคนไหนที่สงสัยว่าผลิตภัณฑ์ Endocare Concentrate Serum SCA40 ที่คุณแนนพูดถึงคือตัวไหน

ตอนนี้ฝนจุ๊บุเอามาใส่ให้แล้ว  คือผลิตภัณฑ์ด้านล่างนี้เลยนะคะ^^

เสียงตอบรับการใช้เอนโดแคร์ จากผู้ใช้จริง

“ใช้ อยู่ค่ะ เราใช้แบบกล่อง7หลอด (แต่เราแบ่งใล้สองครั้ง โดยใช้ไซริงค์ดูดเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า แต่ใล้ให้หมดภายใน2คืนค่ะ ทาเฉพาะก่อนอน) กล่องแรกเราทาติดต่อกัน14คืน รอยสิวจางลงกว่าตอนไปเลเซอร์วีบีมอีกค่ะ(เคยเลฯไป4ครั้ง) จากนั้นเราก็ลดเหลือ อาทิตย์ละ1หลอด(2วัน) ที่เหลือใช้เซรั่มของendocareแทน สูตรtensage sca15 ความเข้มข้นน้อ”
“ผมเคยใช้ แบบ7หลอด ผมเห็นคนใน IG ในmeedmohขาย เลยมาหาข้อมูล ก็ เลยซื้อมาลองแบบ7 วัน ผมว่าสิวแห้งไวดีครับ คืนแรกกดสิวออกแล้วทา ตื่นเช้ามาแผลปิด แต่เรื่องรอยยังไม่หาย ใช้ไป7 คืน ถือว่าโอเคครับ สิวลดลงอย่างเห็นได้ชัด”
“เหมาะ สำหรับคนเป็นสิวอย่างยิ่งค่ะ เราใช้แล้ว 1 กล่อง สิวหาย เยอะมาก หน้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และตอนนี้กำลังจะสั่งซื้อมาเพิ่มค่ะ”
“เรา ได้เอนโดมาจากร้านเพื่อนอะ มันลดราคาขายให้ (ด้วยความเป้นเพื่อน)บอกว่าใช้แล้วสิวมันยุบแล้วก้รอยแดงดีขึ้น ตอนแรกคิด ในใจเมิงมาหลอกขายของกูปะวะ แต่มันบอกอันนี้นำเข้าจากสเปน ก็เลยลองมาใช้ดู ผลปรากฎว่า หน้าเราดีขึ้นอะ ตรงสิวอักเสบอะมันยุบเราบีบเอาหนองออก อีกวันหลุมสิวปิดเลยปลื้มมากที่ตรงนี้ แต่รอยสิวเก่าที่เป้นยู่เดิมมันจางช้า-..- ช้ากว่าสิวใหม่ ถ้าสิวใหม่ทาเอนโด3-4วันก็จางเร็วมาก แต่รอยเก่ามันก็หายช้า เราว่าโอเคนะ”
“ดี จริงค่ะ หน้าเราเมื่อก่อนถ้าสิวอักเสบขึ้นต้องไปฉีดสิวที่ร้านหมออย่างเดียวเรยงั้น มันไม่ยุบ แต่พอเรามาใช้เอนโดแคร์มันหายโดยที่ไม่ต้องไปฉีดเรยและสิวอักเสบที่กำลังจะ ขึ้นก้อยุบเรวมากก ส่วนรอยแผลเป็นอันเก่านี่ไม่ค่อยจางนะ แต่ถ้าเป็นรอยแผลใหม่นี่ถ้าใช้เอนโดแคร์ทาเรยแบบว่าหายเรวอะ ส่วนตัวเราชอบนะ เราก็ลองมาหลายยี่ห้อสิวไม่ค่อยยุบตัวนี้สิวยุบจริงเราใช้มา 3 กล่องและ แต่ค่อยข้างแพง”

เซรั่มทาหน้า บำรุงผิวหน้าให้สดชื่นขาวใส

เซรั่มทาหน้า สารสกัดจาก DNA เมือกหอยทาก

ยุคสมัยนี้ คนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจ ดูแลสุขภาพผิวของตนเองเป็นพิเศษ ทั้งหญิงและชาย เนื่องจากคนที่มีผิวพรรณที่ดี ผิวหน้าขาวใส มักจะได้เปรียบ แม้หน้าตาจะดูธรรมดา แต่ก็ทำให้ดูชวนมอง มากกว่าคนที่ ผิวพรรณไม่เรียบเนียน ไม่ผ่องใส  สมัยนี้ใครๆก็อยากขาวกันทั้งนั้น เพราะ การมีผิวขาวใสจะช่วยให้โดดเด่นกว่าใครๆ ที่สำคัญคือคนในบ้านเราส่วนใหญ่ชื่นชอบคนที่มีผิวขาว โดยเฉพาะชายไทยนี่ได้บอกเลยว่าถ้าเห็นเป็นต้องมองตาเป็นมัน แล้วจะอย่างไรดี ถ้าไม่ได้เกิดมาขาวโอโม่ตั้งแต่กำเนิด ดังนั้นหนุ่มๆสาวๆ จึงอดไม่ได้ที่จะหันมาดูแลตัวเองบ้าง แม้จะต้องใช้ความพยายาม มากมายขนาดไหน ทุกคนก็พร้อมทำทุกทาง เพื่อให้ตนเองดูผ่องใสขึ้น แบบไม่มีเงื่อนไข บทความนี้ช่วยคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นการสรรหาเคล็ดลับสารพัดแบบ รวมไปถึงการเลือกใช้เครื่องสำอางบำรุงผิว ประเภทต่างๆ นับว่าเป้นปัจจัยหลัก ที่ทำให้ผิวพรรณสวยใสขึ้น ไม่ว่าจะราคาสูงสักแค่ไหน ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนมีสตางค์ เพราะเราได้นำเคล็ดไม่ลับ บำรุงผิวขาวใส อ่อนกว่าวัยมาให้ได้ลองนำไปใช้กัน ด้วยเซรั่มทาหน้ารับรองว่าวิธีบำรุงผิวขาวเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีผิวขาวสุขภาพดีขึ้นจนมีคนทัก
นอกจากครีมบำรุงผิวขาวเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายแล้วยังมีอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่ฮอตฮิตไม่แพ้กันเลยทีเดียว นั่นก็คือ “เซรั่มทาหน้าหรือ เซรั่มบำรุงผิวหน้า” นั่งเอง นั่นก็ทำให้หลายคนสงสัยว่ามันจะส่งผลดีต่อผิวหน้าของเราอย่างไรบ้าง ในเมื่อประสิทธิภาพของเซรั่มบำรุงผิวหน้าก็คล้ายๆกับครีมบำรุง โดยให้ผลลัพธ์ในเรื่องของการฟื้นฟูสภาพผิวหน้า ยกกระชับให้เต่งตึง ลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย วันนี้เรามาดูกันว่าจริงๆแล้วเซรั่มบำรุงผิวหน้านั้นดีอย่างไรบ้าง แล้วมันจำเป็นกับเรามากแค่ไหน

 เลือก ครีมบำรุงผิวหน้า อย่างไรให้เหมาะกับผิว 5 ประเภท

1. ผิวธรรมดา

ผู้ที่มีผิวประเภทนี้ นับว่าเป็นผู้ที่โชคดีมาก เพราะผิวธรรมดา มักไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องผิวพรรณ จะมีความเรียบเนียน มีความยืดหยุ่นดี มีรูขุมขนละเอียด เมื่ออากาศร้อนผิวจะไม่เยิ้ม และไม่แห้งเป็นขุยเมื่ออากาศเย็น จำทำให้ดูแลง่าย

การเลือกใช้ครีมบำรุงผิว : ควรเลือกใช้ครีมบำรุง ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ ที่ให้ความชุ่มชื้นเป็นประจำ แค่เพียงทำความสะอาดผิวหน้าด้วยสบู่หรือโฟมต่างๆ ส่วนกลางวันควรทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง

2. ผิวแห้ง

ผิวแห้งมีข้อดีคือ เป็นผิวที่เรียบเนียนมาก รูขุมขนเล็กกระชับ ไม่ค่อยมีปัญหาสิวเสี้ยน แต่จะลอกเป็นขุยง่าย เนื่องจากผิวแห้งเป็นผิวที่ขาดความชุมชื้น และเกิดริ้วรอยได้มากกว่าผิวประเภทอื่น

ดังนั้นคนที่มีผิวแห้ง จึงควรใส่ใจ และมีความทะนุถนอม มากเป็นพิเศษ ควรหลีกเลี่ยงสภาวะ ที่ทำให้เกิด ความรุนแรงต่อผิว เช่นการสัมผัสแสงแดด เป็นเวลานานหลายชั่วโมง การสัมผัสกับอากาศที่ร้อน หรือเย็นเกินไป

การล้างหน้าอย่างรุนแรง การทำซาวน่า และการใช้น้ำอุ่นล้างหน้าเป็นประจำ ซึ่งล้วนแล้วแต่ เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิว เกิดริ้วรอยได้เร็วขึ้น

การเลือกใช้ครีมบำรุงผิว : ควรเลือกใช้ครีมบำรุง ที่มีมอยส์เจอร์ไรเซอร์ นม และโยเกิร์ต เพราะจะช่วยสร้างความชุ่มชื้น และช่วยป้องกัน การเกิดริ้วรอยได้ดี ควรเลือกโฟมหรือสบู่ล้างหน้า ที่มีค่า PH ใกล้เคียงกับสภาพผิว และต้องล้างอย่างเบามือเท่านั้น

รวมถึงผลิตภัณฑ์ ที่ใช้ทำความสะอาดเครื่องสำอาง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมของน้ำ หรือน้ำแร่ หรือโคลด์ครีมซึ่งมีความอ่อนโยนต่อผิว

3. ผิวมัน

จะสังเกตได้ง่ายมาก คนมีผิวมัน จะรูขุมขนกว้าง ไม่เรียบเนียน รูขุมขนคล้ายกับผิวส้ม ซึ่งทำให้เกิดการขับน้ำมันออกมาจากผิวมากผิดปกติ ทำให้หน้าดูมันเยิ้ม เกิดปัญหาสิวเสี้ยน และสิวอุดตัน ได้ง่ายกว่าผิวประเภทอื่น

ข้อดี คือ เกิดริ้วรอยช้ากว่าผิวประเภทอื่น เพราะมีความชุ่มชื่นอยู่แล้ว

ครีมสำหรับผิวมัน

การเลือกใช้ครีมบำรุงผิว : ควรเลือกใช้ครีม ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน หรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์มากนัก เพราะผิวสามารถให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวหน้า ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว

ส่วนการทำความสะอาด ควรล้างด้วยโฟมหรือสบู่อ่อนๆ 2-3 ครั้ง ต่อวันก็พอ ถ้าล้างบ่อยไป จะทำให้ผิวแห้ง และระคายเคืองได้ง่าย

4. ผิวบอบบาง

ผู้ที่มีผิวบอบมาก โดยส่วนใหญ่ มักจะเป็นโรคภูมิแพ้ และผิวยังแห้งอีกด้วย คนที่ผิวบอบบางมาก มักจะแพ้ผลิตภัณฑ์ มักมีอาการผื่นคัน เป็นสิว หรือเกิดร้อยไหม้ได้ง่าย

จึงเป็นผิวที่ควรได้รับการดูแล มากเป็นพิเศษ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน และเสริมสร้างความแข็งแรงให้เซลล์ผิวเป็นหลัก

5. ผิวผสม

เป็นผิวที่เป็นที่คุ้นเคยกันดี เพราะคนไทยส่วนใหญ่มักมีผิวผสม ซึ่งมีความยุ่งยากมากในการดุแล เพราะผิวมีลักษณะหลากหลายประเภทผสมกัน โดยส่วนใหญ่ มักจะเป็นขุยและแห้งตรงแก้ม

ส่วนบริเวณทีโซน จะมีความมันส่วนเกินจำเป็น การดูแลผิวผสม จึงต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ให้เหมาะกับสภาพผิว ซึ่งผิวจะมีการเปลี่ยนแปลง ตามสภาพภูมิอากาศด้วย หากเรามีความเข้าใจ ผิวอย่างแท้จริง การดูแลผิวผสม ก็จะไม่ยุ่งยากเกินไป

การเลือกใช้ครีมบำรุงผิว : ควรเลือกใช้ครีม ที่เหมาะกับผิวแห้ง ในยามเช้า และผิวมัน ในยามค่ำคืน เนื่องจากเวลาเย็นผิวหน้าที่ผ่านมลภาวะทั้งวัน ควรทำความสะอาดอย่างเต็มที่ ส่วนกลางวัน ควรเลือกครีมบำรุงผิว ที่ให้ความชุ่มชื่น แค่พอเหมาะสำหรับช่วงกลางวัน

ลองวิเคราะห์กันดูนะคะว่า ตนเองเป็นคนผิวประเภทใด เมื่อวิเคราะห์แล้ว ลองเลือกวิธี ในการดูรักษา ที่เหมาะสมกับประเภทผิว ของตนอย่างแท้จริง เพื่อสุขภาพผิวที่ดี สวยใส เปล่งปลั่ง โดยไม่ต้องซื้อคอร์สราคาแพง เราก็มีผิวที่สวยใสได้


endocare-concentrate-01เอน โดแคร์ เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศสเปน ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหลายๆทวีป ผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลก และองค์การอาหารและยาประเทศไทย เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับทุกสภาพผิวแม้ผิวแพ้ง่าย โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง หรือแพ้ มีความปลอดภัยปราศจากผลข้างเคียง นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินอี และ ซี ช่วยเพิ่มคอลลาเจน และอีลาสติน ทำให้ผิวยืดหยุ่น เต่งตึง ดูมีชีวิตชีวาขึ้น ลดจุดด่างดำ ทำให้รูขุ่มขนเล็กลง และป้องกันผิวจากการถูกทำลายด้วยมลภาวะ
แอนโดแคร์ เซรั่มทาหน้า ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดที่ได้จาก DNA เมือกหอยทาก ถือเป็น DNA ที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ที่สุด ซึ่งมีดัชนีความเข้มข้นถึง 40% โดยจะแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ที่วางขายตามท้องตลาดทั่วไปที่มีความเข้มข้นเพียง แค่ 4-11 % ถือว่าดีกว่าเป็น 10 เท่า ดังนั้นจึงมีช่วยสรรพคุณ ช่วยลดสิว รอยแผลเป็น รักษาหน้าจากการแพ้สารเคมี แพ้สเตียรอยด์ รักษาริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น ลดรอยหลุมสิว ผิวไม่เรียบเนียนกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ ทำให้ผิวหน้ามีความขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ดูอ่อนกว่าวัย ลดรอยแดง รักษาริ้วรอย ลดอากร ระคายเคือง และลดการอักเสบของผิวหน้า
endocare-concentrate-02
ใช้ เพียง 1 หลอด แล้วทิ้งไว้ 1 คืน ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ สิวและรอยแผลจางลง อย่างเห็นได้ชัด แต่สำหรับคนที่มีอาการคันเมื่อใช้ก็ไม่ต้องกังวล เพราะผิวหน้ากำลังทำปฏิกิริยากับตัวยาเมื่อเวลาผ่านไปอาการคันก็จะหายไปเอง
หากคุณต้องการดูแลผิวหน้าของคุณให้มีความขาวกระจ่างใส่ ลองใช้ เซรั่มทาหน้าของแอนโดแคร์ รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
หากสนใจติดต่อ 088-2665217  
facebookwww.facebook.com/jubuEndocare
Line : jubuendocare


1. ผิวธรรมดา

มองหาเซรั่มเปิดผิวขาว ที่นี่เลย

เซรั่มเปิดผิวขาว เป็นผลิตภัณฑ์ของ Endocare ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลก และองค์การอาหารและยาประเทศไทย เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก เซรั่มเปิดผิวขาว ของ Endocare สารสกัดจากเมือกหอยทาก

ถ้าคุณอยากมีผิวที่ขาวขึ้น เรามีวิธีที่จะทำให้ผิวขึ้นขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เราอาจเห็นครีมหลายยี่ห้อที่โฆษณาว่าทำให้ผิวขาวขึ้น แต่นั่นจะดีต่อสุขภาพผิวแล้วหรือ ลองเปลี่ยนมาใช้วิธีทางธรรมชาติที่ช่วยให้ผิวขาวขึ้นกันดีกว่า ซึ่งส่วนผสมหลักก็เป็นสิ่งที่หาได้ทั่วไปนั่นคือ น้ำมะนาว ซึ่งดีต่อสุขภาพผิวและช่วยให้ผิวขาวขึ้น หลีกเลี่ยงการออกแดดและแผ่นมาร์กหน้าที่ผสมด้วยสารสกัดจากธรรมชาติช่วยให้ คุณห่างไกลความหมองคล้ำ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวเทคนิคผิวขาวใส่อย่างเป็นธรรมชาติเพียง
Endocare
เซรั่มเปิดผิวขาว เป็นผลิตภัณฑ์ของ Endocare ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลก และองค์การอาหารและยาประเทศไทย เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก
ถ้า หากคุณกำลังมองหา ผลิตภัณฑ์ที่ให้ผิวดูขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติขอแนะนำ เซรั่มเปิดผิวขาวของ Endocare ที่มีสารสกัดจากเมือกหอยทากที่จะทำให้คุณผิวขาวดูกระจ่างใส่ แต่ถ้าอยากให้ผิวขาวทันใจก็ควรปฏิบัติตามวิธีด้านล่าง ควบคู่กับการใช้ผลิตภัณฑ์ของ Endocare
Endocare
1.อย่า ให้โดนแสงแดดมากไป สาเหตุของผิวหมองคล้ำและผิวดำส่วนใหญ่เกิดจากรังสี UV ของดวงอาทิตย์ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรใช้ครีมกันแดดที่มีการป้องกันแสง UV สูง หรือสวมเสื้อผ้าแขนยาวเพื่อปกป้องผิวหนัง
2.ขัดผิวที่หมองคล้ำ การขัดผิวเป็นการกำจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายไปแล้ว ทำให้ร่างกายเซลล์ผิวใหม่ได้ขึ้นมาแทนจึงทำให้ผิวหนังมีความกระจ่างใส่ขึ้น ซึ่งทำการขัดนั้นอาจจะใช้แปรงขัดอ่อนๆ หรือฟองน้ำ เพื่อให้เกิดการถลอกของผิวหนังได้
3.การล้างผิวด้วยน้ำมะนาว ในน้ำมะนาวมีกรดอัลฟาไฮดรอกซี (AHA) ซึ่งสามารถขจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายไปแล้วและกระตุ้นการเกิดการสร้างผิวหนัง ขึ้นมาใหม่ โดยมีขั้นตอนดังนี้
– ใช้น้ำมะนาวผสมกับน้ำเปล่าในอัตราที่เท่ากัน เพื่อเป็นการลดความเข้มข้นของน้ำมะนาวซึ่งอาจทำให้เกิดการแสบได้
– ใช้สำลีชุบน้ำมะนาวแล้วเช็ดลงบริเวณผิวหนังที่อยากทำให้ขาว
– หลังจากนั้นรอ 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด และหลีกเลียงการเจอแสงแดด ไม่ควรทำบ่อยๆเพราะอาจทำให้ผิวเสียได้
4.แปะด้วยแผ่นมันฝรั่ง ฝรั่งมีสารประกอบจากวิตามินซีสูง ถือว่าเป็นอาหารชั้นดีของผิว โดยมีขั้นตอนดังนี้
– ปอกเปลือกมันฝรั่งออก แล้วหั่นเป็นแผ่นบ่างๆ
– นำมาแปะบริเวณที่ต้องการให้ผิวขาวขึ้น แล้วทิ้งไว้จนแห้งแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
5.ว่านหางจระเข้ สารว่านหางจระเข้ช่วยรักษาผิวหนังที่เกิดจากไฟไหม้และมีสารที่ช่วยกำจัดชั้น ผิวที่ตายซึ่งสรเหล่านี้มีส่วนประกอบในโลชั่นและเครื่องสำอางเป็นส่วนมาก โดยมีขั้นตอนดังนี้
– นำวุ่นจากว่านหางจระเข้มาทาลงบนผิว
– ทิ้งไว้ 20 นาทีเพื่อให้ผิวหนังสารรถดูสารอาหารได้เต็มที่
– จะล้างออกหรือทิ้งไว้ก็ได้ แต่ไม่ควรจะทิ้งไว้นานเพราะอาจจะแพ้ยางของว่านหางจระเข้
หากสนใจสั่งซื้อ เซรั่มเปิดผิวขาว ของ Endocare
โทร 088-2665217
Line : jubuendocare

วิธีทําให้ผิวขาวใส กับการดูแลผิวที่คุณสามารถทำเองได้ที่บ้าน

ถ้าพูดถึงวิธีทำให้ผิวขาวแล้วละก็ผู้หญิงไทยส่วนใหญ่มักให้ความสนใจ เพราะคนไทยส่วนใหญ่มักมีความเชื่อที่ว่าผู้หญิงที่มีผิวขาวคือผู้หญิงที่สวย มีผิวที่สุขภาพดี แต่จริง ๆ แล้วผิวขาวของผู้หญิงหลายคนอาจจะไม่ใช่ผิวที่มีสุขภาพดีก็ได้ ผิวของผู้หญิงเอเชียนั้นการจะทำให้ผิวขาวอาจจะต้องใช้การดูแลที่มากกว่าสาวชาวยุโรปที่มีผิวสีขาวเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว


ใช้ครีมผิวขาวเป็นกระปุ๊ก ก็ไม่เห็นขาวซักที อยากผิวขาวใสมีวิธีทำให้อย่างไรบ้าง ?

ผู้หญิงหลายคนมีปัญหาการใช้ครีมบำรุงเพื่อทำให้ผิวขาวหมดกันเป็นกระปุ๊ก ๆ แต่ก็ไม่เห็นผิวขาวซักทีทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ผู้หญิงหลาย ๆ คนทีทาครีมเพื่อทำให้ผิวขาว กลับลืมที่จะป้องกันตัวการสำคัญที่จะทำให้ผิวดำ นั้นก็คือ "รังสียูวี" ซึ่งรังสียูวีนั้นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงหลาย ๆ คนมีผิวที่ไม่ขาวซักที แม้จะทาครีมบำรุงผิวนานแล้วก็ตาม การที่ผิวของเราได้รับรังสียูวีอย่างต่อเนื่องโดยขาดการป้องกันย่อมก่อให้เกิดการสะสมของเซลล์ผิวที่หมองคล้ำ ซึ่งผู้หญิงเราส่วนใหญ่มักมองข้ามสิ่งเหล่านี้

วิธีทำให้ผิวขาว


รังสียูวีที่มีผลต่อผิวของเรา

รังสียูวีเอ (UVA) เป็นรังสียูวีเอเป็นรังสีที่มีคลื่นความยาวที่สามารถทะลุผิวหนังที่ลึกถึงเซลล์ผิวชั้นล่างได้ และทำให้คอลลาเจนที่อยู่ในผิวของเราเสื่อมสภาพได้ง่าย รังสียูวีบี (UVB) ก็เป็นอีกหนึ่งตัวทีส่งผลต่อผิวของเราโดย รังสียูวีบี สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากแดดเผาแต่สามารถทะลุผ่านได้เพียงชั้นบนของผิวหนังส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื่น เมื่อมีรังสียูวีตกกระทบสู่ผิวหนังจะทำให้เกิดมีการสะสมสู่เซลล์ผิวและก่อให้เกิดปัญหาผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ ผิวไม่สวย ไม่เรียบเนียน สีผิวไม่สม่ำเสมอ แม้รังสี ยูวี เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็จริงแต่ก็สามารถป้องกันได้



เอาละสำหรับผู้หญิงที่อยากมีผิวขาวกระจ่างใส วิธีทำให้มีผิวขาวอย่างง่าย ๆ ก็คือการที่เราเหลือกครีมบำรุงผิวและใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ ปัจจุบันการทาครีมกันแดดสามารถป้องกันผิวจากแสงแดดและแสงยูวีได้เป็นระยะเวลานานและยังมีสารปรับสภาพผิวขาวอยู่อีกด้วย การทาครีมกันแดดให้ได้ผลสำหรับผู้หญิงเอเชียอย่างเราควรเลือกระดับ SPF ตั้งแต่ 15 ขึ้นไป อาจจะมีการปรับค่า SPF ให้เพิ่มมากขึ้นตามลักษณะการใช้ชีวิตหรือกิจกรรมที่ต้องออกแดดมากหรือน้อย เช่น การอยู่กลางแดดช่วง 10.00 - 14.00 น. ให้ทาครีมกันแดดที่มีฤทธิ์ป้องกันผิวอย่างดีที่สุดควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดดประมาณ 15 นาที ถ้าคุณมีเหงื่อเยอะหรือมีกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกว่าครีมทากันแดดมีฤทธิ์อ่อนลงสามารถทางครีมซ้ำได้แต่ควรเลือกครีมกันแดดให้เหมาะสมกับผิวและการใช้ชีวิตประจำวันของตัวคุณเองมากที่สุด


นอนหลับให้เพียงพออีกวิธีทำให้ผิวสวยใส

เพราะร่างกายของคนเรานั้นมีความสามารถในการซ่อมแซมตัวเราเองอยู่ ซึ่งช่วงเวลาการนอนหลับเป็นช่วงที่ดีที่สุดที่ร่างกายของเราจะทำการซ่อมแซมระบบของร่างกาย การนอนหลับสนิทในช่วงเวลา 5 ทุ่ม ถึงตี 1 นั้นเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ทำให้ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเองและเราควรนอนหลับสนิทเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 6-8 ชม. อีกหนึ่งเคล็ดลับที่จะทำให้การนอนของคุณเกิดประโยชน์สูงสุดคือ ก่อนช่วงเวลาซัก 1 - 2 ชม. ให้คุณหาผลไม้ที่มีสีเหลือ เช่น กล้วย อินทผลัมหรือโยเกิร์ตก็ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีส่วนผสมของกรดอะมิโนโทรปีน ซึ่งมีผลทำให้สมองหลั่งสารเซโรโทนินที่ทำให้จิตใจสงบและทำให้หลับสนิททำให้ร่างกายของเราสามารถซ่อมแซมผิวและดูดซับสารบำรุงต่าง ๆ จากครีมที่ใช้ได้อย่างเต็มทีอีกด้วยค่ะ


ออกกำลังกาย ลดความเครียดอีกวิธีทำให้ผิวขาวเร็วขึ้น

การออกกำลังจะทำให้ระบบโลหิตของเราทำงานได้ดีและยังช่วยเป็นตัวเร่งในการผลัดเซลล์ผิวทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออกไปและเผยเซลล์ผิวใหม่ที่ขาวสดใสเปล่งปลั่งขึ้นมา และการออกกำลังกายยังเป็นตัวเร่งการสร้างเซลล์ผิวอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอสังเกตได้จากคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำมักแลดูอ่อนวัยและผิวกระจ่างใสกว่าคนที่ไม่ได้อ่อนกำลังกายเป็นประจำ ช่วงเวลาในการออกกำลังกายนั้นสาว ๆ ไม่ควรทามอยส์เจอไรเซอร์หรือครีมอื่ม ๆ รวมทั้งการแต่งหน้าด้วย เพราะจะเป็นการปิดกั้นรูขุมขนจนอาจจะทำให้ผิวไม่สามารถขับเหงื่อได้อันจะทำให้ผิวของเรามีสารตกข้างและอาจจะทำให้เกิดสิวได้นะค่ะ


ขัดผิวอีกหนึ่งวิธีที่ไม่ควรมองข้ามถ้าคุณอยากผิวขาวสวยใสกิ๊ก

เรื่องจริงที่ผู้หญิงของเราควรรู้นั้นก็คือ ร่างกายของเรานั้นมีเซลล์ที่เกิดและตายเป็นประจำซึ่งเซลล์ผิวที่ตายแล้วบางทีก็ไม่ได้หลุดลอกออกไปทำให้เกิดการบดบังทับถม ทำให้ผิวใหม่ที่ขาวกระจ่างใสของเราไม่อาจเผยให้เห็นได้ ดังนั้นการกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวจึงเป็นอีกวิธีที่เราควรทำซึ่งเราสามารถทำได้หลากหลายวิธีและการขัดผิวก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งสามารถทำได้ที่บ้านและก็ไม่ยากเกินไป คุณสามารถอ่านรายละเอียดต่าง ๆ ได้ที่นี้ค่ะ วิธีขัดผิวขาว


กินอาหาร ผัก ผลไม้ บำรุงผิวขาวจากภายในเป็นวิธีทำให้ผิวขาวที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม

สุดท้ายก็คงต้องกลับมาที่เรื่องเดิม ๆ นั้นก็คือเรื่องอาหารการกินนั้น เชื่อรึเปล่าว่าผู้หญิงส่วนใหญ่มักตามใจปากกับอาหารที่ไม่มีประโยชน์และรับประทานอาหารในกลุ่มที่มีสารอาหาร สำหรับการบำรุงผิวพรรณน้อยลงทั้งที่จริง ๆ แล้วการกินอาหารและ ผัก ผลไม้นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายและควรทำเป็นประจำมากที่สุด สำหรับผู้หญิงคนไหนที่อยากมีผิวขาวสดใสอมชมพูควรให้ความสำคัญกับการเลือกกินอาหารให้มากขึ้น เพราะการกินอาหารที่เป็นประโยชน์อย่างเหมาะสมและพอดีนอกจากทำให้ผิวพรรณสวยแล้วยังทำให้สุขภาพร่างกายดีและห่างไกลโรคอีกด้วย สำหรับกลุ่มอาหารที่ช่วยให้มีผิวขาวและสวยสดใสได้แก่



    มะเขือเทศช่วยในการป้องกันการเสื่อมของเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูอ่อนวัยและสดใส
    ส้มนั้นสามารถเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับผิวได้เป็นอย่างดี
    แตงโมสามารถบำรุงผิวพรรณ ทั้งยังสามารถช่วยลดการทำงานขอไต และขับปัสสาวะได้อย่างดี
    มะนาวนั้นมีวิตามินซีที่สูงมาช่วยให้ผิวเนียนสวยใส
    ฝรั่งช่วยในการปรับภูมิคุ้มกันให้ร่างกายและยังมีวิตามินซีที่สูงมากอีกด้วย
    ฟักทองอุดมด้วยวิตามินหลากหลายชนิด ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้อย่างดี แถมลดริ้วรอยชะลออายุดีนักแล



สุดท้ายที่จะลืมไม่ได้เลยในการทำให้ผิวขาวสวยสดใสคือ "สภาพจิตใจของตัวเอง" ซึ่งเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อตัวเราเองมากที่สุด คุณผู้หญิงเองนอกจากจะสวยแล้วยังต้องดูแลสภาพจิตใจของตัวเองให้สดใสและไร้กังวลให้มากที่สุด ซึ่งสามารถทำได้หลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการนั่งสมาธิ ฝึกโยคะ การรำไท้เก๊ก หรือ การพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้จิตใจของคุณผ่องใส และความรู้สึกสดใสของคุณจะเป็นตัวผลักดันกระบวนการทำงานของร่างกายคุณเองให้ทำงานอย่างทรงประสิทธิภาพอย่างสูงที่สุด




รวมรวมและเรียบเรียงข้อมูลโดย N3K.IN.TH
อ้างอิง หนังสือพิมพ์แนวหน้า , เดลินิวส์ , สมุนไพร.คอม

ผิวชุ่มชื่นด้วย endocare serum

Endocare serum เวชสำอางค์ ที่วิจัยขึ้นเพื่อรักษาผู้ป่วยโรคผิวหนัง มะเร็งผิวหนัง ช่วยให้ผิวได้ฟื้นฟูเซลล์ ซ่อมแซม บำรุง เซลล์ผิวใหม่ ให้กับผู้ป่วยโรคผิวหนัง

เอนโดแคร์เซรั่ม
Endocare serum คือ เวชสำอางค์ ที่มีการวิจัยขึ้นเพื่อรักษาผู้ป่วยโรคผิวหนัง มะเร็งผิวหนัง ช่วยให้ผิวได้ฟื้นฟูเซลล์ ซ่อมแซม บำรุง เซลล์ผิวใหม่ ให้กับผู้ป่วยโรคผิวหนัง โดย จะช่วยให้เซลล์ผิวหนังที่เสียหายไป มีการฟื้นฟูกลับมาเป็นผิวเดิมได้อย่างรวดเร็ว อ่อนโยน
ผลิตภัณฑ์นี้ผลิตจาก DNA ของหอยทาก ช่วยลดสิว รอยสิว รอยแผลเป็น รักษารอยแดง รอยดำ รอยลึกจากสิว ลดผื่นแพ้ รักษาใบหน้าจากการแพ้สารเคมีอย่างรุนแรง เช่น แพ้สเตียรอยด์ แพ้ไฮโดควิโนนเป็นต้น นอกจากนี้ยังรักษาริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น ริ้วรอยแห่งวัย ลดรอยหลุมสิว ผิวไม่เรียบเนียน ผลิตภัณฑ์เอนโดแคร์เชรั่มของเราสกัดจากเมือกหอยทาก ที่ระดับความเข้มข้น 40 ซึ่งเป็นเซรั่มเข้มข้น อุดมด้วยสารสกัดจาก DNA เมือกหอยทาก ลิขสิทธิ์เฉพาะจาก IFC ประเทศสเปน ด้วยความเข้มข้นของเมือกหอยทาก Repair Index 40 ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน ให้ดีขึ้นเพื่อกระตุ้นสีผิวสม่ำเสมอกัน ลดการหย่อนคล้อยของผิว ลดรอยแดง และการอักเสบของผิว  ผลิตภัณฑ์ Endocare serum ยังอุดมไปด้วย Hydration Complex,Vitamin C และ Vitamin E ที่เป็นสารที่มีความสามารถในการ ต่อต้านอนุมูลอิสระ (Anti-Oxidents) ที่จะ ช่วยลดเลือนริ้วรอยให้กระจางใสแลดูอ่อนเยาว์ บำรุงผิวที่แห้งหยาบกร้านให้อ่อนนุ่มขึ้น กักเก็บความชุ่มชื้นให้คงอยู่กับผิวได้ยาวนานยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับยกย่องทั่วโลก ว่าเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่จำหน่ายในราคาถูกที่ ผ่านการรับรองและการทดสอบ โดยแพทย์ผู้เชียวชาญด้านผิวหนังโดยเฉพาะจากนานาชาติ เพิ่มความมั่นใจยิ่งขึ้นโดย พญ.นวลนภา สันติไชยกุล ผู้บริหารของ Yasashii Clinic ซึ่งเป็น 1 ใน ทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์เอนโดแคร์  ได้การันตี ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้กับทุกสภาพผิว ถึงแม้จะมี สภาพผิวที่แพ้ง่ายเพียงใดก็ตาม จึงเป็นที่ยอมรับ ในวงการแพทย์และนำไปใช้ในการรักษาในโรงพยาบาล ผิวหนังทั่วโลก
Endocare serum นั้นอุดมไปด้วยสารสกัดจาก DNA ของหอยทาก(เมือกของหอยทาก) มีความเข้มข้นสูงมาก เมื่อเทียบกับครีมหอยทากที่เราเห็นวางขายทั่วไปในท้องตลาดในประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น  8-10 เท่า ดังนั้น ผลิตภัณฑ์นี้จึงสามารถฟื้นฟูผิวเร่ง การสร้างผิวหนังใหม่เห็นผลไวใน 7 วัน
เอนโดแคร์เซรั่ม
ในสมัยก่อน Endocare ได้มีขายกันอย่างกว้างขวางในวงการแพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลโรคผิวหนังใหญ่ ๆ และ คลีนิกหมอผิวหนังชั้นนำที่ทันสมัย เนื่องจาก ผู้ป่วยที่มาทำการรักษาโรคผิวหนังจากสิว ผื่น จะช่วยบรรเทาอาการบวมแดงของสิว สิวยุบเร็ว ไม่อักเสบ ผื่นจะหายรวดเร็ว ผิวหน้าจะแข็งแรง หรือเพิ่งทำเลเซอร์ใหม่ ๆ หน้ามีรอยแดง ๆ หลังจากทำเลเซอร์ หากต้องการให้ผิวสร้างคอลลาเจนขึ้น โครงสร้างผิวแข็งแรงและสุขภาพดีรวดเร็ว คุณหมอจะจัด Endocare ให้ไปใช้
นอกจากเมือกหอยทากแล้ว Endocare Ampoules (เอนโดแคร์ แอมพลู) ยังอุดมไปด้วยวิตามิน E วิตามิน C Complex , Hyaluronic Acid ซึ่งมีส่วนช่วยให้ผิวมีความแข็งแรง ชุ่มชื่น เนียน กระชับ ช่วยลดเลือนริ้วรอย ฟื้นฟูสภาพผิวให้เนียน กระจ่างใสดูอ่อนกว่าวัย อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนด้วยตัวเองตามธรรมชาติซึ่งปลอดภัย กว่าและดีกว่าการทาคอลลาเจน โดยมีการกระตุ้นคอลลาเจนเป็นลักษณะโครงตาข่ายใต้ผิวหนัง ทำให้คอลลาเจนมีการเรียงตัวเป็นระเบียบ และรูขุมขนกระชับ อีกทั้งช่วยเพิ่มอิลาสติน ให้ผิวยืดหยุ่น ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงและป้องกันผิวจากการทำลายเนื่องจากมลภาวะ

Endocare Serum
จาก DNA หอยทาก ช่วยลดสิว รอยแผลเป็น รักษารอยแดง รอยดำ รอยลึกจากสิว ลดผื่นแพ้ รักษาหน้าจากการแพ้สารเคมี แพ้เสตียรอยด์ รักษาริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น ริ้วรอยแห่งวัย ลดรอยหลุมสิว ผิวไม่เรียบเนียน
ทำไมต้องเอนโดแคร์ ??
Endocare  เป็นเวชสำอางค์ชั้นนำจาก "สเปน" เริ่มมาจากการวิจัยเพื่อรักษา แล้วสร้างเซลล์ผิว และฟื้นฟูผิวใหม่ให้กับผู้ป่วยผิวหนัง เช่น มะเร็งแล้วต้องรักษาด้วยรังสี และผู้ที่ผิวหนังโดนรังสีนิวเคลียร์เป็นต้น เพื่อให้ผิวหนังฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็ว อ่อนโยน และปลอดภัย ผ่านการทดสอบแล้วว่าใช้ได้กับทุกสภาพผิวแม้แต่ผิวแพ้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง หรือแพ้
นอกจากนี้ Endocare ยังอุดมไปด้วย Hydration Complex , Vitamin C และ E ที่เป็นสารที่มีความสามารถต่อต้าน อนุมูลอิสระ (Anti-Oxidents) ที่จะช่วยลดเลือนริ้วรอยให้กระจ่างใสแลดูอ่อนวัย ฟื้นบำรุงผิวที่แห้งหยาบกร้านให้อ่อนนุ่มขึ้น รักษาสิว ริ้วรอย และเก็บกักความชุ่มชื้นให้คงอยู่ได้นานขึ้น
ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจากนานาชาติ เพื่มความมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยการการันตี ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้กับทุกสภาพผิว ถึงแม้จะเป็นผิวที่แพ้ง่าย เป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ และนำไปใช้ในการรักษาในโรงพยาบาลผิวหนังทั่วโลก


วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558

endocare ราคาวันนี้

เอนโดแคร์ ผลิตภัณฑ์คุณภาพสารสกัดจากเมือกหอยทากที่คุณเข้าถึงได้ง่าย Endocare ราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไปที่นี่!!!


Endocare ราคาวันนี้
price


เอน โดแคร์ คอนเซนเทรด  เซรั่มบำรงผิวหน้าสกัดจากเมือกหอยทาก ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ยกกระชับ และลบเลือนริ้วรอย ด้วยความเข้มข้นของเมือกหอยทาก Repair Index 40 ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน กระตุ้นสีผิวสม่ำเสมอ ลดการหย่อนคล้อยของผิว ลดรอยแดง และการอักเสบของผิว ขายในราคา 1,600.00฿ ฟรีค่าขนส่ง
เอนโดแคร์ อควา โฟม  โฟมบางเบาสำหรับทำความสะอาดสิ่งสกปรกล้างเครื่อสำอาง  ความมันบนใบหน้า บำรุงผิวหน้าสำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย  ช่วยลดการอักเสบของผิวและปกป้องการเกิดสิว พร้อมทั้งผลัดและสร้างเซลล์ผิวใหม่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน และบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น ขายในราคา 1,200.00฿ ฟรีค่าขนส่ง
เอนโอแคร์ เทนสาจ ครีม ครีมเข้มข้นที่ประกอบไปด้วย สารสกัดจาก DNA เมือกหอยทากทีมีค่า Repair Index 6 คงความยืดหยุ่นของผิว รวมไปถึง ช่วยลบเลือนริ้วรอยบนผิวหน้า อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความนุ่มชุ่มชื่นให้กับผิวอีกด้วย ขายในราคา 1,600.00฿ ฟรีค่าขนส่ง
เอนโดแคร์ เทนสาจ คอนเซนเทรด ช่วยในการยกกระชับผิว กันการหดตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้ช่วยลดความลึกของร่องและริ้วรอยบนใบหน้าและลำคอ ต่อต้านอนุมูลอิสระ และช่วยลดเอ็นไซด์ที่ทำให้เกิดความเข้มของเม็ดสี เพิ่มความขาวกระจ่างใสให้กับผิว อุดมด้วยความเข้นข้นของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพิ่มความชุ่มชื้นทั้งภายในและภายนอกผิวแลดูสดใสเปล่งปลั่ง ลดรอยแดงและการอักเสบของผิว  ซ่อมแซม DNA ผิวที่ถูกทำลาย  ทำให้ผิวสุขภาพดีอย่างยั่งยืน ขายในราคา 3,500.00฿ ฟรีค่าขนส่ง
เอนโอ แคร์ เทนสาจ ครีม   ครีมเข้มข้นที่ประกอบไปด้วย สารสกัดจาก DNA เมือกหอยทากทีมีค่า Repair Index 6 คงความยืดหยุ่นของผิว รวมไปถึง ช่วยลบเลือนริ้วรอยบนผิวหน้า อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความนุ่มชุ่มชื่นให้กับผิวอีกด้วย ขายในราคา 1,600.00฿ ฟรีค่าขนส่ง

dddd

เอน โดแคร์ เทนสาจ เรเดี้ยนซ์ อาย คอนทัวร์ ครีมถนอมรอบดวงตา ด้วยส่วนผสมเทือกหอยทาก ที่มีค่า Repair index 10 ช่วยให้ผิวรอบดวงตากระชับ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ลดริ้วรอยใต้ตา และตื้นขึ้น ลดถุงใต้ตาให้มีขนาดลดลง เพิ่มการหมุนเวียนของเลือด   ช่วยลดรอยหมองคล้ำใต้ตา ลดการซึมผ่านของผนังหลอดเลือด ทำให้ไม่เกิดการคั่งของน้ำและของเสียบริเวณใต้ตา Endocare ราคา 1,450.00฿ ฟรีค่าขนส่ง
สำหรับสินค้าของ Endocare  ก็มีให้เลือกซื้อมากมาย หากต้องการที่จะสั่งซื้อสามารถสั่งซื้อได้ที่ http://www.jubuendocare.com/

เคล็ดลับการดูแลป้องกันหน้าติดสารสเตรอย
1. ใช้ครีมบำรุงผิวหน้าที่มีความอ่อนโยน เช่น สารสกัดจากเมือกหอยทากของEndocare ที่ช่วยในการบำรุงและฟื้นฟูผิวได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก DNA ของหอยทากจะฟื้นฟูผิวหน้าที่ติดสารสเตรอยได้เป็นอย่างดี
2. ทำจิตใจให้สบายๆ อย่าวิตกกังวล เพราะความเครียดจะกระตุ้นฮอร์โมนให้ใบหน้าเกิดสิว ฟังเพลงในแนวที่ตนเองชอบหรือหากิจกรรมทำยามว่าง จะช่วยทำให้สภาพของจิตใจดีขึ้นได้
3. ควรพักผ่อนให้เพียงพอ นอนให้ได้วันละ 6-8ชั่วโมง และห้ามใช้มือบีบสิวเพราะจะทำให้เกิดการอักเสบขึ้นได้ ในระหว่างวันควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้วหรือ 2ลิตร เพื่อล้างสารพิษตกค้างออกจากร่างกาย จะช่วยทำให้สิวน้อยลงได้
4. เลิกใช้สารสเตรอย เมื่อเลิกใช้สารสเตรอยร่างกายจะฟื้นฟูผิวหนังที่โดนทำลายเอง ซึ่งอาจใช้เวลานานอยู่หลายเดือนขึ้นอยู่กับการดูและรักษาตนของแต่ละบุคคล เมื่อร่างกายปรับสมดุลของผิวหน้าให้ดีขึ้นแล้วก็ควรเลือกใช้เซรั่มบำรุงผิว หน้าที่มีสารสกัดจาก DNA เมือกหอยทาก เช่นผลิตภัณฑ์ล้างของEndocare เพราะDNA ของหอยทากมีความคล้ายกับคนมากที่สุดจึงทำให้ช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวได้เป็น อย่างดี
วิธีรักษาสิว สเตอรอยด์,หน้าติดสารสเตรอย,เอนโดแคร์เซรั่ม,เซรั่มรักษาสิว,เอนโดแคร์

ผลิตภัณฑ์เอนโดแคร์เซรั่ม

เอนโดแคร์เซรั่ม เป็นผลิตภัณฑ์เบำรุงรักษาหน้าเครื่องสำอางคุณภาพที่สกัดจากเมือกหอยทาก เพื่อฟื้นฟูและเร่งการซ่อมแซมผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื่นยกกระชับลบเลือนริ้วรอย

สิว เป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อยทำให้เกิดตุ่ม หรือแผลเป็นบนใบหน้า หลัง และหน้าอก สิวที่ปรากฎอาจจะเป็นสิวหัวขาว สิวหัวดำหรือที่เรียกว่าสิวเสี้ยน หากอักเสบมากอาจจะมีหนอง หรือเป็น cyst หากเป็นมากอาจจะกลายเป็นแผลเป็น scar
ตำแหน่งที่เกิดสิว
ตำแหน่งที่เกิดสิวได้แก่บริเวณที่ไขมันมากได้แก่ หน้า ไหล่ หลัง อก
ตำแหน่งที่พบบ่อยได้แก่
ใบหน้าพบเกือบทุกคนที่เป็นสิว บริเวณหลังพบเกือบครึ่งของคนที่เป็นสิว บริเวณหน้าอกพบได้ประมาณร้อยละ15


วิธีรักษาสิว แบบธรรมชาติ โบกมือลาหน้าสิวด้วย 7 เคล็ดลับรักษาสิวจากธรรมชาติ รับรองสิวหายเกลี้ยงไม่มีเหลือกวนใจแน่นอน

สำหรับ คุณสาว ๆ ที่มีปัญหากับสิวตัวการมานานหลายปี ลองใช้ครีมราคาแพง ๆ ก็แล้ว ทำสารพัดวิธีก็แล้ว แต่สิวเจ้ากรรมก็ไม่มีวี่แววว่าจะหายขาดสักที บางครั้งหายแล้วก็ยังขึ้นมาใหม่เรื่อย ๆ บวกกับทิ้งรอยดำเอาไว้ให้ดูต่างหน้าเล่นอีก แบบนี้ล่ะช้ำใจแย่ ถ้าหากใครที่กำลังเจอกับปัญหานี้อยู่ บอกเลยว่าไม่ต้องไปหาวิธีรักษาสิวราคาแพง ๆ ที่ไหนอีกแล้วล่ะค่ะ แค่หันมาพึ่งวิธีแบบธรรมชาติ รับรองว่าช่วยได้แน่นอน แถมยังทำได้ง่าย ๆ เผลอ ๆ กลายเป็นสิวหายเกลี้ยงไม่มีเหลือให้กวนใจอีกต่างหาก เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็อย่ารอช้า รีบมาดูสูตรรักษาสิวแบบธรรมชาติที่กระปุกดอทคอมนำมาฝากกันเลยดีกว่า

เอนโดแคร์เซรั่ม ผลิตภัณฑ์บำรุงรักษาหน้า

เอนโดแคร์เซรั่ม เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางคุณภาพที่สกัดจากเมือกหอยทาก สายพันธุ์ดั้งเดิมของสเปนที่มีผลการวิจัยออกมาว่าเป็นสัตว์ที่มี DNA คล้ายกับคนมากที่สุด ในเมือกหอยทากมีสารที่ช่วยในการบำรุงและฟื้นฟูผิวได้เป็นอย่างดี สกัดจากเมือกหอยทาก ที่ระดับความเข้มข้นสูงซึ่งเป็นเซรั่มเข้มข้น อุดมด้วยสารสกัดจาก DNA เมือกหอยทาก ลิขสิทธิ์เฉพาะจาก IFC ประเทศสเปน เพื่อฟื้นฟูและเร่งการซ่อมแซมผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ยกกระชับ และลบเลือนริ้วรอย ด้วยความเข้มข้นของเมือกหอยทาก Repair Index 40% ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน กระตุ้นสีผิวสม่ำเสมอ ลดการหย่อนคล้อยของผิว ลดรอยแดง และการอักเสบของผิวความเข้มข้นของเมือกหอยทาก (SCA) ที่แตกต่างกันในผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดจะช่วยในการฟื้นฟูและบำรุงให้ผิวของคุณมี สุขภาพดียิ่งขึ้นไป
กลุ่มผลิตภัณฑ์เซรั่มจากเอนโดแคร์
endocare serum

– เอนโดแคร์ เทนสาจ เซรั่ม เป็นเซรั่มที่ใช้บำรุงรักษาใบหน้า มีส่วนผสมที่สำคัญคือ DNA จากเมือกหอยทากมีระดับความเข้มข้น 15% ช่วยกระชับรูขุมขนบนใบหน้า ปรับความขาวของหน้าให้ดูกระจ่างใส

เendocare serum

– เอนโดแคร์ เดย์ ดีเฟน SPF 30 – DD ครีม เป็นครีมทาหน้าสูตรบางเบา มีสารสกัดจากเมือกที่เข้มข้น 2% มีคุณสมบัติ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดการเกิดริ้วรอย ทำให้ต่อมไขมันบนใบหน้าทำงานน้อยลง จึงหมดห่วงเรื่องปัญหาหน้ามัน และยังมีสารกันแดด SPF 30 ที่จะช่วยป้องกัน ฝ้าและสิวจากแสงแดด
endocare serum


– เอนโดแคร์ เทนสาจ คอนเซนเทรด เป็นเซรั่มสูตรเข้มข้นแบบพิเศษ เนื่องด้วยมีสารสกัดจาก DNA เมือกหอยทากสูงสุดถึง 50% จึงทำให้ผิวมีความกระชับผิวช่วยป้องกันการหดตัวของกล้ามเนื้อ และช่วยลดปริมาณของเอ็นไซด์ที่ทำให้เกิดการหมองคล้ำ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นของใบหน้า
เอนโดแคร์เซรั่ม ผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลก WHO และการันตีด้วย รางวัล The best ในงาน Cleo beauty hall of fame ซึ่งเป็นรางวัลชนะเลิศ จากผลิตภัณฑ์ชั้นนำกว่า 500 แบรนด์
สนใจสั่งซื้อสินค้า โทร 088-2665217
facebook : www.facebook.com/jubuEndocare
Line : jubuendocare


เสียงตอบรับการใช้เอนโดแคร์ จากผู้ใช้จริง
"ใช้ อยู่ค่ะ เราใช้แบบกล่อง7หลอด (แต่เราแบ่งใล้สองครั้ง โดยใช้ไซริงค์ดูดเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า แต่ใล้ให้หมดภายใน2คืนค่ะ ทาเฉพาะก่อนอน) กล่องแรกเราทาติดต่อกัน14คืน รอยสิวจางลงกว่าตอนไปเลเซอร์วีบีมอีกค่ะ(เคยเลฯไป4ครั้ง) จากนั้นเราก็ลดเหลือ อาทิตย์ละ1หลอด(2วัน) ที่เหลือใช้เซรั่มของendocareแทน สูตรtensage sca15 ความเข้มข้นน้อ"
"ผมเคยใช้ แบบ7หลอด ผมเห็นคนใน IG ในmeedmohขาย เลยมาหาข้อมูล ก็ เลยซื้อมาลองแบบ7 วัน ผมว่าสิวแห้งไวดีครับ คืนแรกกดสิวออกแล้วทา ตื่นเช้ามาแผลปิด แต่เรื่องรอยยังไม่หาย ใช้ไป7 คืน ถือว่าโอเคครับ สิวลดลงอย่างเห็นได้ชัด"
"เหมาะ สำหรับคนเป็นสิวอย่างยิ่งค่ะ เราใช้แล้ว 1 กล่อง สิวหาย เยอะมาก หน้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และตอนนี้กำลังจะสั่งซื้อมาเพิ่มค่ะ"
"เรา ได้เอนโดมาจากร้านเพื่อนอะ มันลดราคาขายให้ (ด้วยความเป้นเพื่อน)บอกว่าใช้แล้วสิวมันยุบแล้วก้รอยแดงดีขึ้น ตอนแรกคิด ในใจเมิงมาหลอกขายของกูปะวะ แต่มันบอกอันนี้นำเข้าจากสเปน ก็เลยลองมาใช้ดู ผลปรากฎว่า หน้าเราดีขึ้นอะ ตรงสิวอักเสบอะมันยุบเราบีบเอาหนองออก อีกวันหลุมสิวปิดเลยปลื้มมากที่ตรงนี้ แต่รอยสิวเก่าที่เป้นยู่เดิมมันจางช้า-..- ช้ากว่าสิวใหม่ ถ้าสิวใหม่ทาเอนโด3-4วันก็จางเร็วมาก แต่รอยเก่ามันก็หายช้า เราว่าโอเคนะ"
"ดี จริงค่ะ หน้าเราเมื่อก่อนถ้าสิวอักเสบขึ้นต้องไปฉีดสิวที่ร้านหมออย่างเดียวเรยงั้น มันไม่ยุบ แต่พอเรามาใช้เอนโดแคร์มันหายโดยที่ไม่ต้องไปฉีดเรยและสิวอักเสบที่กำลังจะ ขึ้นก้อยุบเรวมากก ส่วนรอยแผลเป็นอันเก่านี่ไม่ค่อยจางนะ แต่ถ้าเป็นรอยแผลใหม่นี่ถ้าใช้เอนโดแคร์ทาเรยแบบว่าหายเรวอะ ส่วนตัวเราชอบนะ เราก็ลองมาหลายยี่ห้อสิวไม่ค่อยยุบตัวนี้สิวยุบจริงเราใช้มา 3 กล่องและ แต่ค่อยข้างแพง"

วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2558

รักษาสิวอย่างถูกวิธีด้วยเอนโดแคร์

เอนโดแคร์ ผลิตภัณฑ์สารสกัดจากเมือกหอยทากมีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน กระตุ้นสีผิวสม่ำเสมอ ลดการหย่อนคล้อยของผิว ลดรอยแดง และการอักเสบของผิว

วิธีใช้ Endocare อย่างถูกวิธี
ด้วย เทคโนโลยี SCA BIO Repair ลิขสิทธิ์เฉพาะ เพื่อให้เซรั่มบำรุงสู่ผิวได้อย่างล้ำลุกเร่ง การซ่อมแซมผิว ลดการอักเสบของผิว รอยแดง และอาการข้างเคียงจากการทำเลเซอร์ ลดการอักเสบของผื่น และบรรเทาอาการบวมแดงของสิว เนื้อเซรั่มจะสัมผัสกับอากาศ ดีที่สุดคือใช้แค่ 1 หลอด ต่อ 1 คืน
1 หลอด ประกอบด้วยเซรั่มเข้มข้น 1 ml. ในกล่องมี 7 หลอด
กล่อง แรก ให้ใช้ Endocare ทุกคืน ติดกันเลย 7 วัน 7 หลอด เพื่อการฟื้นฟูผิวในระยะแรกอย่างต่อเนื่องและเร่งด่วน สำหรับคนที่มีปัญหาผิวมากๆ หรือต้องการฟื้นฟูผิวอย่างเร่งด่วน โดยใช้ทาบนหน้า คลึงนวดเป็นวงกลมให้เซรั่มซึมสู่ผิวได้ดี และเป็นการกระตุ้นให้เซรั่มซึมสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น
กล่องต่อไปให้ใช้ 2-3 วันครั้งก็ได้ค่ะ หรือวันเว้นวัน เช่นใช้ทุกๆ วัน อังคาร และศุกร์
สำหรับคนที่ไม่มีปัญหาผิวหน้า อาจไม่จำเป็นต้องใช้ติดต่อก้นกได้ค่ะ แค่ใช้อาทิตย์ละ 2 วันก็ได้ค่ะ
เหมาะ สำหรับผู้ที่นอนดึก อดนอน หน้าหมองคล้ำ หรือผู้ที่ต้องออกงาน เเละต้องการมีผิวหน้า ดูดี กระจ่างใสโดยไม่ต้องเข้า สปาหน้า หรือ คอร์สทรีทเมนต์ราคาเเพง คุณสามารถทำได้เองที่บ้าน ในราคาหลักร้อย ต้องการฟื้นฟู สภาพผิวหน้าอย่างเร่งด่วน 1 amp(หลอด)ใช้ได้ 1 วัน (สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหนักจริงๆ ควรใช้ติดต่อกัน 7 วัน)
Endocare-01 
  เอนโดแคร์ คือกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ประกอบไปด้วยสารสกัดจากเมือกหอยทากสายพันธุ์ดั้งเดิม ของสเปนที่มีผลวิจัยว่าเป็นสัตว์ที่มี DNA คล้ายกับคนมากที่สุด และเมือกหอยทากมีสารที่ช่วยในการบำรุงและฟื้นฟูผิวได้เป็นอย่างดี สกัดจากเมือกหอยทาก ที่ระดับความเข้มข้น 40 ซึ่งเป็นเซรั่มเข้มข้น อุดมด้วยสารสกัดจาก DNA เมือกหอยทาก ลิขสิทธิ์เฉพาะจาก IFC ประเทศสเปน เพื่อฟื้นฟูและเร่งการซ่อมแซมผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ยกกระชับ และลบเลือนริ้วรอย ด้วยความเข้มข้นของเมือกหอยทาก Repair Index 40 ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน กระตุ้นสีผิวสม่ำเสมอ ลดการหย่อนคล้อยของผิว ลดรอยแดง และการอักเสบของผิวความเข้มข้นของเมือกหอยทาก (SCA) ที่แตกต่างกันในผลิตภัณฑ์ที่แต่ละชนิดจะช่วยในการฟื้นฟูและบำรุงให้ผิวของ คุณมีสุขภาพดียิ่งขึ้นไป 

สาเหตุการเกิดสิว
1. ฮอร์โมนแอนโดรเจน (androgens) อย่างที่บอกไปแล้วว่าสิ่งที่เป็นตัวควบคุมการสร้างน้ำมันก็คือฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่พบได้มากในเพศชาย แต่ก็พบได้ในเพศหญิงเช่นกัน โดยช่วงที่ฮอร์โมนแกว่งหรือมีการเปลี่ยนแปลง แต่ละคนก็จะเป็นสิวแบบพีคสุด ๆ อย่างผู้หญิงฮอร์โมนจะแกว่งตอนที่รอบเดือนมาหรือกำลังตั้งครรภ์ ส่วนผู้ชายฮอร์โมนจะพลุ่งพล่านไปตามธรรมชาติ ในช่วงวัยรุ่นหรือในช่วงเครียด ๆ
2. กรรมพันธุ์ของแต่ละบุคคล ทำให้ผิวหนังแตกต่างกันออกไปทั้งโครงสร้างของผิว การสร้างไขมันที่มากหรือน้อยเกินไป ความสามารถในการซ่อมแซมผิวหนังระหว่างการเกิดสิวและการซ่อมแซมเมื่อหายจากอาการของสิวอักเสบแล้ว
3. ชอบวุ่นวายกับใบหน้า เช่น การจับ ลูบ แคะ แกะ เกาใบหน้าอยู่บ่อย ๆ เราต้องอย่าลืมว่ามือเราไปจับอะไรมาบ้างในแต่ละวัน ถ้าเราไม่ได้ล้างหน้ามือเอามาสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ ก็อาจจะก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือนำพาแบคทีเรียมาทำให้สิวที่มีอยู่เกิดการอักเสบได้อีกด้วย, การขัดหน้าบ่อย ๆ อาจกลายเป็นสาเหตุทำให้สิวเห่อได้ เพราะเวลาที่เราขัดหน้า นั่นหมายถึงเรากำลังทำให้ผิวหน้าหนาขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทำให้รูขุมขนตีบลง น้ำมันที่ควรจะออกมาก็ออกมาไม่ได้ (ขัดหน้าได้แต่อย่าบ่อย ถ้าเป็นสิวอยู่ก็ไม่ต้องขัด รอให้หายก่อนดีกว่าแล้วจึงค่อยขัด), การล้างหน้าบ่อยเกินไปหรือมากกว่าวันละ 2 ครั้ง จะเป็นการกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงานมาผิดปกติ, พฤติกรรมบางอย่างที่รบกวนผิวหน้า เช่น บางคนชอบเอามือเสยผม บางคนชอบบีบจมูก ใช้โทรศัพท์แนบกับแก้มขณะสนทนา หรือชอบนั่งเท้าคางหรือแก้มเป็นประจำ เป็นต้น
4. กิจวัตรประจำวันต่าง ๆ เช่น การไม่รักษาความสะอาด, การล้างหน้าหรือเครื่องสำอางไม่สะอาด, การใช้ผลิตภัณฑ์ปกปิดตำหนิต่าง ๆ หรือเครื่องสำอางที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม, การใช้ครีมหรือแป้งที่อาจเป็นต้นเหตุของสิวบนใบหน้า, การสวมหมวกหรือหมวกกันน็อคโดยไม่เคยซักทำความสะอาด, การนอนตะแคงแล้วน้ำลายไหลออกมาด้านข้าง, อาชีพแม่ครัวที่รับได้ควันจากสารพวกไขมันและน้ำมันต่าง ๆ, ช่างเครื่องที่ทำงานกับน้ำมัน, คนที่ใช้กระดาษคาร์บอน เป็นต้น
5. ล้างหน้าผิดวิธี อย่าคิดไปเองว่าแค่การใช้โฟมล้างหน้าปกติจะช่วยทำให้ผิวหน้าของคุณสะอาดแบบหมดจด แม้จะเอามือลูบหน้าแล้วก็ไม่รู้สึกว่ามีความมันหลงเหลืออยู่หรือมีอะไรตกค้าง เพราะเครื่องสำอางที่เราโปะไปบนใบหน้านั้นมันไม่สามารถล้างออกได้ด้วยโฟมล้างหน้าเพียงอย่างเดียว สุดท้ายเครื่องสำอางเหล่านั้นก็จะผสมกับโฟมล้างหน้าจนเกิดการอุดตันจนทำให้สิวผุดขึ้นมา และยังรวมไปถึงคนที่ไม่แต่งหน้า พอหน้ามันแล้วก็ล้างหน้ามันทั้งวัน แทนที่สิวจะหายก็กลายเป็นการกระตุ้นการเกิดสิวเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว
6. ความมันบนใบหน้า ความมันเป็นสิ่งที่สิวชอบมากเป็นอันดับต้น ๆ เมื่อต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาจนทำให้หน้ามัน แล้วเราก็ปล่อยไว้อย่างนั้น โดยไม่หาทางทำความสะอาดออกมา เจ้าน้ำมันก็จะตันอยู่ในรูขุมขน พอมันอยู่นาน ๆ เข้าก็จะไปผสมกับเซลล์ที่ตายแล้วและทำให้เกิดเป็นสิวอุดตันอยู่ในนั้น ซึ่งเจ้าสิวชนิดนี้นี่แหละที่เป็นตัวการสำคัญทำให้มีปัญหาสิวชนิดอื่นตามมาแบบไม่รู้จบ
7. เครียดมากเกินไปแถมนอนดึกอีกต่างหาก นับว่าเป็นพฤติกรรมยอดฮิตของคนเมืองเลยก็ว่าได้ คุณสามารถสังเกตได้เลยว่าในช่วงสอบหรือในช่วงที่ต้องเร่งส่งงาน เราจะมีโอกาสเป็นสิวเพิ่มมากขึ้น นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อเราเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนออกมา ซึ่งฮอร์โมนตัวที่ว่าจะไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น ทำให้ยิ่งเป็นสิวมากขึ้น
8. มลภาวะและแสงแดด สำหรับคนที่ทำงานในห้องแอร์คงไม่ต้องกังวลเรื่องแดดมากนัก แต่ใช่ว่าจะหลบสิวพ้นซะเมื่อไหร่ เพราะการอยู่ในห้องแอร์นาน ๆ จะทำให้ผิวแห้ง และอากาศที่วนเวียนอยู่ในนั้นยังอาจไม่สะอาดเพียงพอจนไปกระตุ้นการเกิดสิวได้ ส่วนคนที่หลีกเลี่ยงแสงแดดไม่พ้น ความร้อนจากแสงแดดจะทำให้น้ำในผิวระเหยออกไป เมื่อหน้าแห้ง ต่อมไขมันก็จะผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้หน้ามันและเป็นสิวเพิ่มในที่สุด และยิ่งสภาพอากาศในบ้านเราที่ทั้งรอนและชื้นแบบนี้ ก็ยิ่งเป็นที่มาของการเกิดสิวผดและสิวชนิดอื่น ๆ ได้อีกด้วย
9. การสูบบุหรี่ มีงานวิจัยหลายงานที่ชี้ว่า การสูบบุหรี่จะทำให้เส้นเลือดตีบ ทำให้ผิวหนังชั้นนอกได้รับสารอาหารและออกซิเจนไม่เพียงพอ เมื่อผิวอันสวยใสของเราได้รับสารอาหารน้อยลง ก็จะทำให้ผิวไม่แข็งแรงพอที่จะฟื้นฟูตัวเองยามสึกหรอ ไม่สามารถป้องกันตัวเองจากแบคทีเรียได้ดีเท่าที่ควร จนทำให้เกิดสิวอุดตันทั้งหัวขาวและหัวดำในที่สุด
10. อาหารที่อาจเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว เช่น สาหร่ายทะเล ผักขม และหอย ซึ่งมีไอโอดีนและฟลูออไรด์นะทำให้เป็นสิวมากขึ้น รวมไปถึงแป้ง น้ำตาล นมและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ที่หากทานมากไปก็อาจทำให้สิวอักเสบกำเริบได้ เนื่องจากในน้ำนมจะมีฮอร์โมนแอนโดรเจน และสารที่เป็นตัวกระตุ้นสิวผสมอยู่ เช่น คาร์โบไฮเดรต, ไอโอดีน, โอเม้ก้า6 เป็นต้น และในปัจจุบันได้มีงานวิจัยออกมายืนยันแล้วว่า “อาหารไม่ใช่ปัจจัยโดยตรงที่ทำให้เกิดสิวได้ แต่สารที่อยู่ในอาหารต่างหากที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิว” หรือในคนมีระบบน้ำเหลืองในร่างกายไม่ดี พอกินอะไรเข้าไปก็อาจมีสิวโผล่บนใบหน้าได้ง่าย และที่สำคัญคนกลุ่มนี้มักไม่รู้ตัวด้วยว่าอาหารและระบบน้ำเหลืองมีความสัมพันธ์กับการเกิดสิว เลยทานอาหารกันอย่างไม่ระมัดระวัง พอเป็นสิวก็ทำเครียด พอเครียดสิวก็เห่ออีก จึงกลายเป็นปัญหาไม่รู้จบนั่นเอง ถ้าคุณเป็นแผลแล้วหายยาก แถมมีหนองแทบทุกครั้งที่เป็นแผล ก็ให้สงสัยไว้ก่อนว่าระบบน้ำเหลืองเราอาจไม่ดี และให้หลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ คือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารทะเล อาหารรสจัด และหน่อไม้
11. ใช้ผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะสม อย่างบางคนเป็นสิวง่ายและแพ้ง่ายอยู่แล้ว แต่ก็ยังเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมทั้งน้ำหอมและแอลกอฮอล์ พอใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มันก็จะเกิดการระคายเคือง แล้วก็จะเป็นสาเหตุของการเกิดสิวนั่นเอง รวมถึงไปคนที่ชอบซื้อสกินแคร์ตามแฟชั่น อยากลองใช้ของใหม่ ๆ ทั่ง ๆ ที่ตัวเองเจอสิ่งที่เหมาะกับเราอยู่แล้ว ก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน
12. ใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมที่อาจทำให้เกิดสิว ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามได้แสดงรายการส่วนประกอบของเครื่องสำอางที่อาจทำให้ใบหน้าที่เนียนสวยกลายเป็นมีสิวได้ โดยเฉพาะกับคนหน้ามัน จะยิ่งกลายเป็นสิวมากขึ้น มีดังนี้ สารสกัดจากสาหร่าย, ลาโนลิน, โกโก้, ไขมะพร้าว, น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันข้าวโพด, น้ำมันถั่วเหลือง, น้ำมันจมูกข้าว, น้ำมันเมล็ดฝ้าย Acetol acetilan, Amberate P, Butyl Sterate, Colloidal Sulfur, Crude coal tar, Decyl oleate, D & C Red #17,21,3, Glyceryl Stearate SE, Isocetyl Stearate, Isopropyl Isostearate, Isopropyl Myristate, Isopropyl Palmitate, Isopropyl lanolate, Isosteary neopentanoate, Lauric 23, 4, Lauric acid, Lanosterin, Langogene, Myristic acid, Octyl Palmitate, Octyl Stearate, Oleth-3, PEG 75 Lanolin, PEG 16 Lanolin, PEG 8 Stearate, Propylene Glycol Monostearate, Sterolan, Sodium Chloridem Sodium Laureth Sulfate, Sodium Lauryl Sulfate, *Crisco, *Hygrogenated Vegetable Oil, *Myristyl myristate, Mink Oil, PG 2 myristyl propionate, *Sulfonated Castor Oil และผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำว่า คุณควรจะระมัดระวังเครื่องสำอางที่มีฉลากเขียนว่า “ได้รับการทดสอบจากผู้ชำนาญด้านความงามแล้ว“, “ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้” และที่ระบุว่า “ผสมตัวยา” เพราะเครื่องสำอางเหล่านี้ยังอาจก่อให้เกิดสิวได้ เพราะยังอาจมีส่วนประกอบที่ทำให้เป็นสิวตามที่ระบุไว้ในรายการนี้ ดังนั้นทางที่ดี คุณควรอ่านฉลากสักนิดว่าเครื่องสำอางนั้นมีส่วนประกอบดังกล่าวและทดสอบว่าเครื่องสำอางนั้นมีน้ำมันหรือไม่
13. อุปกรณ์แต่งหน้าที่หมักหมม ไหนจะแปรงปัดแป้ง แปรงปัดแก้มสารพัดที่เราจะใช้ เมื่อใช้แล้วก็อย่าลืมล้างทำความสะอาดแปรงหลังการใช้ด้วยล่ะ เพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์แต่งหน้ากลายเป็นบ้านของแบคทีเรียจนทำให้เกิดสิว
14. สิ่งประทินผม เช่น สีย้อมผอม แชมพูขจัดรังแค น้ำมันใส่ผม สเปรย์แต่งผม และเหงื่อจากหนังศีรษะ
15. ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ก็อาจทำให้บางคนเกิดเป็นสิวขึ้นบริเวณมุมปากไปจนถึงคางรวมถึงบริเวณใกล้เคียงได้ ซึ่งสิวลักษณะจะค่อนข้างรักษาได้ยากและไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีทั่วไป แต่ถ้าเปลี่ยนมาใช้ยาสีฟันที่ไม่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ อาการของสิวก็จะดีขึ้นเอง
16. ยาบางชนิด ในระหว่างที่เราทานยาเพื่อรักษาอาการหรือโรคที่เป็นอยู่ ยาเหล่านั้นอาจเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้เช่นกัน เพราะยาบาตัวอาจมีสารที่ไปกระตุ้นให้ฮอร์โมนและเคมีในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ เช่น ยาต้านอาการชัก (Hydantoin derivatives, Phenobarbitol, Trimethadione), ยาสำหรับต้านเชื้อวัณโรค (Ethambutol, Ethionamide, Isoniazid), ยาที่มีธาตุในหมู่ฮาโลเจน (Halogen) เป็นส่วนประกอบอย่างคลอไรด์และไอโอดีน, ยาที่มีผลต่อฮอร์โมนโดยตรง อย่าง androgenic hormones (มีผลมากกับผู้หญิง) corticosteroids, depoprovera, DHEA และ oral contraceptives, ยาอื่น ๆ (Antabuse, Dantrolene, Lithium salts, Maprotiline, Psoralens, Quinine, Rifampin, Thiouracil, Thiourea), ยาปฏิชีวนะ, ยาสเตียรอยด์ทั้งชนิดทาและกิน เป็นต้น ถ้าหากคุณกำลังใช้ยาเหล่านี้อยู่ คงต้องทำใจและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาทางแก้ไขกันต่อไป
  endocare-tensage-concentrate-02
คุณสมบัติ
  • ช่วยลดการอักเสบของผิวที่ติดสารเคมีแรงๆ
  • เป็นผื่นแพ้ หรือ ผิวที่ติดสเตรียรอย ควรใช้
  • ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ซ่อมแซมและสร้างเซลล์ผิวใหม่
  • ช่วยสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน ลดริ้วรอยแห่งวัย ช่วยให้ริ้วรอยตื้นขึ้น
  • ผิวหน้าขาวกระจ่างใสเด้งดึ๋ง เรียบเนียน เงา วาว
  • ช่วยเรื่องสิว ช่วยลดรอยดำแดงที่เกิดจากสิว
  • ในวงการแพทย์สกินยังใช้เซรั่มนี้ จ่ายให้คนไข้ที่ทำเลเซอร์ เพื่อป้องกันการอักเสบ และรอยแดงหลังเลเซอร์

endocare-aquafoam-01
ทำไมต้องใช้เอนโดแคร์ เอนโดแคร์ เป็นเวชสำอางค์ชั้นสูงจาก “สเปน” ซึ่งมาจากการวิจัย เพื่อใช้ในการรักษาและสร้างเซลล์ผิว ฟื้นฟู ซ่อมแซม ผิวใหม่ ให้กับผู้ป่วยด้านผิวหนัง เอนโดนแคร์จะช่วยรักษา เพื่อให้เซลล์ผิวหนังที่เสียหาย ฟื้นฟูกลับมาได้อย่างรวดเร็ว อ่อนโยน และปลอดภัย ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผู้เชียวชาญด้านผิวหนังแล้วว่า เอนโดแคร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับทุกสภาพ­ผิวแม้ผิวแพ้ง่าย โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง หรือแพ้
  allserum

เรื่องสิวจัดการได้ด้วย เซรั่มรักษาสิว

ผลิตภัณฑ์เอนโดแคร์เชรั่มรักษาสิวอุดมไปด้วยสารสกัดจาก DNA ของเมือกหอยทาก ลิขสิทธิ์เฉพาะจาก IFC ประเทศสเปน ลดรอยแดง และการอักเสบของผิว

เซรั่มรักษาสิว เอนโดแคร์ เซรั่มสำหรับบำรุงผิวสำหรับผู้ที่เป็นสิวโดยเฉพาะ ผู้ใช้ไม่ต้องพึ่งยาแต้มสิวหรือยาทาสิวแต่อย่างใดเลย เพียงแค่ใช้ผลิตภัณฑ์เอนโดแคร์บำรุงใบหน้า ที่ทำมาโดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ที่ เป็นสิวอักเสบ สิวหนอง มีรอยแดง หน้าแดงจากสิว สิวรุนแรงและไม่รุนแรง ผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่ายมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย โดย เซรั่มรักษาสิว ของเราจะช่วย เร่งการซ่อมแซมผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ยกกระชับ และลบเลือนริ้วรอย ทำให้รอยดำรอยแดงจากสิวจางลง ต้านอนุมูลอิสระ ต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบของสิวและผิวหนัง นอกจากนี้ยังไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และระคายเคืองแต่อย่างใด ปรับสีผิวให้สว่างกระจ่างใสและเรียบเนียน พร้อมควบคุมความมันได้ดีเยี่ยม
เซรั่มรักษาสิว
วิธีรักษาสิว
 1. อยากสิวหายต้องใจเย็น ข่าวร้ายที่เราควรรู้เอาไว้ก็คือ “เราไม่มีทางทำให้สิวหายขาดได้” และ “การรักษาก็ไม่มีทางลัดให้เดินหลายทาง” การรักษาสิวจึงต้องใช้ความตั้งใจ ความใจเย็น และความอดทน ยิ่งคนที่ใช้ยาที่สกัดมาจากวิตามินเอก็ต้องทำใจไว้เลย เพราะยาจะออกฤทธิ์ช่วยดันสิวอุดตันให้โผล่ออกมาบนผิว และอาจต้องใช้เวลาอย่างต่ำกว่า 8 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลชัดเจน ทำให้บางคนรอไม่ไหว หรือเห็นสิวโผล่ขึ้นมาระหว่างการรักษาก็ทำให้ถอดใจ จึงทำให้การรักษาไม่ต้องเนื่อง สุดท้ายเมื่อสิวลุกลามจนเกินเยียวยาได้ด้วยตัวเอง ก็หันไปรักษาด้วยวิธีอื่นที่ทำให้ต้องเสียเงินเป็นจำนวนมาก

2. ปรับเปลี่ยนทัศนคติ หลาย ๆ คนมักคิดว่าที่ตัวเองเป็นสิวนั้นเกิดจากการรักษาความสะอาดไม่เพียงพอ ตัวเองสกปรก และคิดว่าเป็นความผิดของตัวเอง แต่จริง ๆ แล้วสิวมันเกิดมาได้จากหลายสาเหตุมาก ซึ่งหลาย ๆ อย่างเราเองก็ไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้น คุณควรปรับเปลี่ยนความคิดและทัศนคติเสียใหม่ว่า “ที่สิวมันเกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เพราะเราสกปรกผิดจากชาวบ้าน แต่จริง ๆ แล้วสิวมันเป็นเรื่องธรรมชาติ เมื่อมีสิวขึ้นมาแล้วก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราจะเริ่มรักษาอย่างถูกวิธีและมันก็จะหายไปได้เอง” ถ้าเราปรับความคิดใหม่ได้ จะทำให้ความเครียดส่วนนี้ลดน้อยลง ทำให้การรักษาสิวได้ผลดีมากขึ้น

3. สังเกตตัวเองสักนิด ให้ลองสังเกตว่าเรามักจะเป็นสิวตอนไหน หน้าร้อนหรือหน้าฝน และในช่วงนั้นได้ไปทำอะไรที่ผิดปกติไปจากเดิมหรือเปล่า เช่น เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิว เปลี่ยนแชมพู เป็นต้น เมื่อเราสังเกตตัวเองจนทราบแล้วว่า ช่วงไหนที่สิวถามหาเรา ก็ให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ หรือบางคนเจอสิวบุกหนักเพราะเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมที่มี่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ และผลิตภัณฑ์ที่เป็นออยเบส ก็ให้หลีกเลี่ยงซะ

4. รักษาก่อนบำรุง ในระหว่างการรักษาสิวคุณต้องมีสติในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้มากถึงมากที่สุด อย่าเพิ่งคิดบำรุงผิวในช่วงนี้ แต่ให้หันมารักษาสิวให้หายก่อน โดยระหว่างการรักษาคุณควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ประเภทออยเบส โคโค่บัสเตอร์ เปปเปอร์มินท์ออย เพราะตอนที่เราเป็นสิว ผิวของเราจะเกิดการระคายเคืองได้ง่าย ยิ่งพวกครีมเนื้อหนัก ๆ ก็ให้เลี่ยงเลย ถ้าไม่อยากให้มันอุดตันรูขุมขนมากขึ้น แต่สำหรับคนผิวแห้ง คุณอาจต้องการการบำรุงบ้าง โดยให้เลือกใช้เจลว่านหางจระเข้มาเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ไปก่อน

5. ลดความมันบนใบหน้า หากรู้ตัวว่าหน้ามันจนทอดไข่ได้ คุณควรจะล้างหน้าเพื่อเอาความมันออกซะบ้าง แต่อย่าล้างหน้าบ่อย ๆ ล่ะ เพราะจะยิ่งไปกระตุ้นการเกิดสิวได้ แต่ถ้าคุณหน้ามันมากจนเกินเยียวยาได้ด้วยตัวเอง ก็ควรรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางแก้ไขที่ต้นเหตุ โดยแพทย์อาจจะต้องใช้ยาเพื่อควบคุมฮอร์โมนแอนโดรเจนเอาไว้ (ส่วนนี้ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น)

6. หยุดซาวน่าและสตรีม ในระหว่างการรักษาสิว คุณควรหยุดการซาวน่าและสตรีมไปก่อนอย่างไม่มีข้อยกเว้น เพราะมันจะทำให้ผิวทั้งร้อนและชื้น สิวที่มีก็จะเห่อขึ้น รูขุมขนกว้างขึ้น บริเวณที่มีแนวโน้มจะเป็นสิวก็อาจเกิด

 7. สิวขึ้นมาได้อย่างคาดไม่ถึง แต่ให้หันมาออกกำลังกายแทนจะดีกว่า

 8. ล้างหน้าให้ถูกวิธีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง เราควรจะล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิวเพียงวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น แต่ถ้าหากหน้ามันมากจริง ๆ ก็อาจล้างได้ไม่เกินวันละ 3 ครั้ง เวลาล้างต้องล้างให้สะอาดหมดจดจนแน่ใจว่าไม่เหลือสิ่งสกปรกอยู่บนใบหน้า ถ้ามีเหงื่อออกหรือหน้ามันระหว่างวันคุณควรจะล้างหน้าด้วย “น้ำเปล่า” แล้วซับให้แห้ง (แต่อย่าล้างบ่อย เพราะจะยิ่งทำให้หน้ามันมากขึ้น) และก่อนจะลงผลิตภัณฑ์อะไรก็ตามคุณควรซับหน้าให้แห้งก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดสิว (บทความที่เกี่ยวข้อง : การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธี, ขั้นตอนการล้างหน้าที่ถูกวิธีอย่างละเอียด)

9. ดื่มน้ำเพื่อล้างพิษ การดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะช่วยทำให้เซลล์ต่าง ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และน้ำยังเป็นตัวช่วยในการนำสารพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกายให้ถูกขับออกมาด้วย ดังนั้นจงจำไว้เลยว่า เราควรดื่มน้ำไม่ต่ำกว่าวันละ 8 แก้ว และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการล้างพิษ คุณควรรับประทานผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีและวิตามินอีด้วย เพื่อช่วยเสริมสร้างสุขภาพผิวให้แข็งแรง สำหรับคนที่โดนสิวบุกมาก ๆ คุณอาจผสมน้ำมะนาวลงไปในน้ำแก้วแรกของวันก็ได้ ซึ่งวิธีนี้พบว่าใช้ได้ผลในหลายคน ในการช่วยล้างพิษได้อย่างหมดจด

 10. กำจัดความเครียด คุณควรอารมณ์ดีเข้าไว้ พยายามทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ เพราะเมื่อเราเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนตัวที่สามารถไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น และต่อให้ป้องกันการเกิดสิวได้ดียังไง แต่ยังเครียดอยู่ก็คงหนีไม่พ้นที่จะมีสิวผุดขึ้นมาอย่างแน่นอน โดยมีงานวิจัยที่ได้สรุปว่า “เมื่อมีความเครียดเกิดขึ้นจะทำให้การอักเสบของสิวเพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้น โดยคิดเฉลี่ยเป็นเปอร์เซ็นต์มากถึง 93.5%” และเชื่อไหมว่าบางคนยังไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่ากำลังเครียดอยู่ แต่คุณสามารถสังเกตความเครียดได้จากพฤติกรรมดังต่อไปนี้ครับ คือถ้ามีมากข้อเท่าไหร่ก็ยิ่งเครียดมากเท่านั้น เช่น นอนไม่หลับทั้ง ๆ ที่เลยเวลานอนแล้ว, ไม่อยากเจอหน้าผู้คนหรือต้องการหลบปัญหา, ระเบิดอารมณ์กับทุก ๆ เรื่องได้ง่าย แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม, ดื่มเหล้ามากขึ้น, ไม่อยากรับประทานอาหาร, ชอบกัดเล็บตัวเองโดยไม่รู้ตัว, ดึงผมตัวเองอยู่บ่อย ๆ เป็นต้น ซึ่งถ้าคุณมีมากกว่า 4 อย่างขึ้นไป นั่นหมายความว่าเรากำลังเครียดในระดับสูง ก็ให้รีบหาทางจัดการมันซะ เพราะยิ่งเครียดสิวก็ยิ่งเยอะ

11. นอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับนับเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด เพราะตอนเราหลับร่างกายจะหลั่งสารโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ออกมา ซึ่งฮอร์โมนนี้จะช่วยซ่อมแซมร่างกายของเราได้ในขณะหลับ ช่วยทำให้ผิวหนังส่วนที่สึกหรอรวมถึงแผลที่เป็นอยู่ให้หายไวขึ้น ส่งผลกับผิวหน้าและผิวกายของเราโดยตรง คือ รูขุมขนจะมีการซ่อมแซมตัวเอง ทำให้สิ่งสกปรกจากภายนอกเข้ามาในรูขุมขนได้ยากขึ้น และการนอนดึกยังเกี่ยวข้องกับความเครียดอีกด้วย เมื่อร่างกายเกิดความเครียดก็จะทำให้ผิวอ่อนแอลง ส่งผลให้แบคทีเรียตัวร้ายเข้ามาจู่โจม ทำให้เราเกิดสิวอักเสบได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

 12. หลีกเลี่ยงแสงแดด ปกป้องผิวตัวเองจากแสงแดดด้วยการทาครีมกันแดดเป็นประจำ ใส่แว่นกันแดดเพื่อถนอมตา สวมใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดผิว และหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีความร้อนและความชื้นสูง เพราะนอกจากจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวแล้ว มันยังเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยและสีผิวที่ดำคล้ำได้อีกด้วย
มารู้จักกับเซรั่มรักษาสิว


13. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับสภาพผิว ผลิตภัณฑ์ความงามในปัจจุบันนั้นมีมากมาย จนเราเองก็ปวดหัวในการเลือกใช้ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ ก็มีสรรพคุณแตกต่างกันออกไป ดังนั้นเวลาเราเลือกใช้ นอกจากจะเลือกให้มาช่วยแก้ไขและบำรุงผิวหน้าแล้ว เราต้องเชื่อมั่นด้วยว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นจะไม่เอาสิวมาฝากเราด้วย เคล็ดลับก็ง่าย ๆ คือผลิตภัณฑ์ที่เราจะใช้ต้องมีคุณสมบัติไม่ทำให้เกิดการอุดตัน ช่วยกำจัดแบคทีเรีย และมี อย. รับรอง ถ้าอ่านป้ายแล้วเจอข้อความ non comedogenic ก็เป็นอันใช้ได้ (บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดของผิวแต่ละสภาพ, ข้อควรระวังในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของผิวแต่ละสภาพ, การดูแลและบำรุงผิวหน้าของผิวแต่ละสภาพ) 

14. หลีกเลี่ยงการใช้กระดาษซับมัน คุณควรหลีกเลี่ยงการใช้กระดาษซับมัน แล้วหันมาใช้กระดาษทิชชู่สำหรับใบหน้าในการซับน้ำมันส่วนเกินแทน เพราะการใช้กระดาษซับมัน จะทำให้น้ำมันถูกซับออกไปจนหมด ส่งผลทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นเป็นพิเศษ เพราะมันคิดว่าผิวเราแห้งจนเกินไป คราวนี้ก็เป็นเรื่องใหญ่เลยล่ะ แต่ถ้าการใช้ทิชชู่ในการซับหน้ายังไม่สามารถสร้างความรู้สึกสบายให้ใบหน้าได้ ก็แนะนำให้เลือกฉีดสเปรย์น้ำแร่แล้วใช้ทิชชู่ซับออกเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับผิวหน้าก็ได้ 

15. ยาคุมกำเนิด นับเป็นโชคดีของสาว ๆ ที่เราสามารถควบคุมสิวที่เกิดจากฮอร์โมนแอนโดรเจนได้ด้วยการทานยาคุมกำเนิด เนื่องจากยาคุมกำเนิดนั้นมีฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrigen) ที่จะเข้าไปกดการทำงานของฮอร์โมนแอนโดรเจน แต่เห็นมันมีข้อดีอย่างนี้แล้วก็อย่าเพิ่งดีใจไปล่ะ เพราะมันก็มีผลเสียอยู่บ้างที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น และมีผลในด้านลบต่อคนที่เป็นโรคหัวใจ รวมไปถึงอาจทำให้เกิดปัญหาเส้นเลือดอุดตันได้

 16. มะเขือเทศ จัดว่าเป็นยาวิเศษจากธรรมชาติที่สามารถพิฆาตสิวได้เป็นอย่างดี เพราะมะเขือเทศมีทั้งวิตามินเอที่ช่วยเสริมสร้างผิวให้มีสุขภาพดี มีวิตามินซีที่ช่วยในเรื่องของความขาวใสและสมานรอยแผล อีกทั้งยังมีคุณสมบัติทำให้ผิวเย็นลง ช่วยกำจัดน้ำมันส่วนเกิน ต้านอนุมูลอิสระ และทำให้รูขุมขุมกระชับได้อีกด้วย ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ เราจึงใช้ประโยชน์จากมะเขือเทศในการป้องกันการเกิดสิวได้อย่างยอดเยี่ยม วิธีการก็ไม่ยากเพียงแค่คุณคั้นเอาน้ำมะเขือเทศมาทาลงบนใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า ก็จะช่วยป้องกันเกิดการสิวได้แล้วล่ะ (วิธีนี้เราจะใช้ก็ต่อเมื่อเรารู้สึกว่าสิวอุดตันมันเริ่มจะเป็นไตแข็ง ๆ และเจ็บ ที่เป็นสัญญาณของสิวอักเสบ ซึ่งการทาน้ำมะเขือเทศจะช่วยป้องกันการอักเสบได้ ส่วนสิวอุดตันที่เป็นไตแข็งก็จะค่อย ๆ ยุบตัวลงไปเอง)
วิธีรักษาสิว

17. ผิวส้ม ให้นำผิวส้มมาปั่นกับน้ำสะอาดจนได้เป็นเนื้อครีมข้น แล้วนำเนื้อครีมที่ได้มาทาบาง ๆ บนสิวและรอบ ๆ สิว ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออก เพียงเท่านี้สิวของคุณก็จะค่อย ๆ ยุบลงแล้วล่ะ

18. กระเทียม ให้นำกระเทียมสดมาฝานเป็นแว่นบาง ๆ แล้วใช้กระเทียมค่อย ๆ ลูบไล้บริเวณที่เป็นสิว วิธีนี้จะช่วยลดรอยแดงของสิวและทำให้สิวยุบตัวได้เร็วยิ่งขึ้น

19. มะละกอ ให้คุณนำมะละกอดิบมาปั่นทั้งเมล็ด จากนั้นคั้นเอาแต่น้ำนำมาแต้มบาง ๆ บริเวณที่เป็นสิว ทิ้งไว้สักพักแล้วล้างออก จะช่วยลดการอักเสบของสิวได้ แต่วิธีนี้จะไม่เหมาะกับคนผิวบอบบางและผิวแพ้ง่าย

20. น้ำคั้นใบสะระแหน่ ให้คั้นน้ำจากใบสะระแหน่สด นำมาทาบาง ๆ ให้ทั่วใบหน้าเป็นประจำทุกวัน ทิ้งไว้สักพักแล้วค่อยล้างออกให้สะอาด วิธีนี้นอกจากจะช่วยรักษาสิวได้แล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิดเม็ดผื่นคันและโรคผิวหนังอย่างโรคหิดและกลากเกลื้อนได้อีกด้วย

21. น้ำมันถั่วลิสงผสมน้ำมะนาว ให้คุณใช้น้ำมันถั่วลิสง 1 ช้อนโต๊ะ นำมาผสมกับน้ำมะนาวคั้นสด 1 ช้อนโต๊ะ แล้วนำมาส่วนผสมที่ได้มาทาบาง ๆ ให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้สักพักแล้วล้างออกให้สะอาด วิธีนี้จะช่วยป้องกันการเกิดสิวอักเสบและสิวหัวดำได้เป็นอย่างดี

22. น้ำมะนาวผสมอบเชย ให้ใช้น้ำมะนาว 1 ช้อนชา นำมาผสมกับผงอบเชย 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน ล้างหน้าให้สะอาดและซับให้แห้ง จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้มาแต้มบาง ๆ บริเวณที่เป็นสิวประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด จะช่วยทำให้สิวค่อย ๆ ยุบตัวลง แต่วิธีนี้ไม่เหมาะกับคนผิวบอบบางและผิวแพ้ง่าย

23. น้ำมะนาวผสมนมสด ให้คุณนำน้ำมะนาวสดมาผสมกับนมสดอุ่น ๆ ใช้ล้างผิวหน้าทิ้งไว้สักพัก แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด วิธีนี้จะช่วยลดการเกิดสิวอักเสบ สิวหัวดำ และช่วยบำรุงผิวหน้าให้เนียนนุ่มไม่แห้งแตก

24. น้ำมะนาวผสมน้ำคั้นจากดอกกุหลาบ ให้คุณผสมน้ำมะนาวเข้ากับน้ำคั้นจากดอกกุหลาบในปริมาณเท่ากัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้มาทาบริเวณที่เป็นสิว ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น วิธีนี้จะช่วยทำให้สิวยุบลงได้ และยังช่วยทำให้หน้าขาวดูสดใสได้อีกด้วย

25. น้ำผึ้งผสมไข่ขาวและน้ำมะนาว ให้คุณใช้น้ำผึ้งแท้ 1 ช้อนโต๊ะ นำมาผสมกับไข่ขาว 1 ฟอง แล้วเติมน้ำมะนาวลงไปอีก 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้า จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้มาทาให้ทั่วใบหน้ายกเว้นบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปากทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออก และล้างปิดท้ายด้วยน้ำเย็น เสร็จแล้วให้ทาครีมบำรุงผิว


26. สิวอุดตัน สิวที่ชอบเก็บตัวอยู่กับรูขุมขนบนใบหน้า ยิ่งนานวันก็ยิ่งฝังตัวแน่น ดูวิธีการป้องกันและรักษาสิวอุดตันอย่างละเอียดได้ที่บทความ 18 วิธีรักษาสิวอุดตัน (สิวหัวดำ &amp; สิวหัวขาว) อย่างได้ผล 100%

27. สิวอักเสบ สิวชนิดที่เป็นร่างแปลงของสิวอุดตัน ที่พัฒนาขึ้นมาด้วยอาหารเสริมอย่างเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรกจากน้ำมือของเจ้าของใบหน้า ที่ชอบไปล้วงแคะแกะเกา หากคุณเป็นสิวชนิดนี้อยู่ สามารถดูวิธีป้องกันและรักษาสิวอักเสบได้ที่บทความ 13 วิธีรักษาสิวอักเสบ ! หน้าเป็นสิวอักเสบทำไงดี ??

28. สิวเสี้ยน ฟังชื่อแล้วเหมือนจะเป็นแค่ปัญหาเล็ก ๆ แต่มันกลับสร้างปัญหาได้เยอะเลยทีเดียว เพราะเมื่อไหร่ที่เราขับไล่มันไป มันก็จะทิ้งรูขุมขนกว้างไว้ให้เจ้าของใบหน้าได้ช้ำใจ ดูวิธีการป้องกันและรักษาสิวเสี้ยนอย่างละเอียดได้ที่บทความนี้ 16 วิธีกำจัดสิวเสี้ยน &amp; สูตรลอกสิวเสี้ยน แบบสะใจ !!

29. สิวผด ร้อนเมื่อไหร่ได้เจอกันทุกที ชื้นเมื่อไหร่มันก็จะมาอีก ยิ่งอากาศทั้งร้อนและชื้นแบบบ้านเรามันยิ่งชอบ แม้จะไม่ร้ายกาจเท่าสิวชนิดอื่น ๆ แต่มันก็สร้างความรำคาญใจได้ไม่น้อยเลยล่ะ เพราะถ้าเผลอไปแคะแกะเกาล่ะก็ มันก็พร้อมจะกลายร่างเป็นสิวที่ร้ายกาจได้ทุกเมื่อ สามารถดูวิธีการป้องกันและรักษาสิวผิดได้ที่บทความ 13 วิธีรักษาสิวผด ! หน้าเป็นสิวผดทำไงดี ??
เซรั่มรักษาสิว
    ผลิตภัณฑ์เอนโดแคร์เชรั่มสกัดจากเมือกของหอยทาก ซึ่งเป็นเซรั่มเข้มข้น อุดมด้วยสารสกัดจาก DNA ของเมือกหอยทาก ลิขสิทธิ์เฉพาะจาก IFC ประเทศสเปน ด้วยความเข้มข้นของเมือกหอยทาก Repair Index 40 โดยมีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน เพื่อกระตุ้นสีผิวสม่ำเสมอ ลดการหย่อนคล้อยของผิว ลดรอยแดง และการอักเสบของผิวนั่นเอง

วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2558

การดูแลรักษาหน้าติดสารสเตรอย

หน้าติดสารสเตรอยคืออะไร แล้วจะดูแลรักษายังไงหน้าติดสารสเตรอย คือภาวะที่ผิวหน้ามีภูมิคุ้มกันน้อย อันเนื่องมาจากการใช้สารสเตรอยมาเป็นเวลานาน ทำให้หนังกำพร้าไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื่นได้ จึงทำให้เกิดอาการแพ้ง่าย ซึ่งจะทำให้เกิดผดผื่นและสิวอักเสบบนใบหน้า สารสเตรอยมักจะพบในรูปแบบ ยาแต้มสิว ครีมรักษาสิว ยาทานแก้สิวอักเสบ ซึ่งหากจะเลือกใช้ยาก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ

สเตอรอยด์(Steroid) คือ อะไร
สเตอรอยด์ คือชื่อเรียกของกลุ่มฮอร์โมนที่ถูกสร้างจากต่อมหมวกไตภายในร่างกายของคนเรา สเตอรอยด์ที่ถูกสร้างหลักๆ มี 2 ชนิด คือ โคติซอล(Cortisol)และอัลโดสเตอรอยด์(Aldosterone) โดยถูกสร้างสูงสุดตอนตื่นนอน และต่ำสุดตอนที่เรานอน เรียกว่า Diurnal attern นอกจากนี้ถ้าร่างกายมีความเครียดต่างๆ ทั้งทางร่างกายและจิตใจร่างกายก็จะหลั่งสารสเตอรอยด์ออกมามากขึ้น เพื่อควบคุมความกดดันเหล่านั้นตามธรรมชาติ เชื่อว่าถ้าไม่มีสเตอรอยด์เลย ทำให้เราถึงตายได้ทีเดียว
ต่อมาในวงการแพทย์แผนปัจจุบันได้มีการสร้างสารสเตอรอยด์สังเคราะห์ขึ้นมาจากต้นแบบ cortisol เพื่อพัฒนาตัวยาบางชนิดให้แรงขึ้น เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาโรคบางชนิด สเตอรอยด์ที่สังเคราะห์จะม ลักษณะเป็นน้ำหรือเป็นผงสีขาวและเป็นเกล็ดตาม ลักษณะความต้องการของผู้ผลิต หากเราสังเกตให้ดีจะพบว่ายาแผนปัจจุบันที่อยู่ในกลุ่มสเตอรอยด์มีหลายชนิด เช่น ยารักษาโรคภูมิแพ้ ยารักษาโรคหอบหืดชนิดพ่นสู ทางปากได้แก่ เบโดรเมธาโซน และบูเดโซไนด์ ยาหยอดตา ยาป้ายตา ยารักษาโรคไตบางชนิด ยารักษาข้ออักเสบ และยาแก้แพ้ นอกจากนี้ยังมียาอีกหลายตัวที่เป็นสเตอรอยด์ ซึ่งตัวยาทั้งหมดนี้ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์และเภสัชกร


เมื่อสเตอรอยด์มีประโยชน์ ก็ต้องมีโทษอันตรายเหมือนกันหากใช้ติดต่อกันนานเกินไป จะเกิดอาการที่เรียกว่า Cushing's syndrome คือ มีอาการบวม ท้องลาย เป็นสิว ผิวเข้มขึ้น ความดันโลหิตสูง อ่อนเพลีย ขนขึ้นตามตัว ติดเชื้อง่าย กดการเจริญเติบโตของเด็ก ความดันในลูกตาสูงขึ้นทำให้เป็นต้อหิน ตามัว โพแทสเซียมในเลือดต่ำ กล้ามเนื้ออ่อนแรง คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ปวดศีรษะ นอกจากนี้แล้วยังทำให้ประจำเดือนผิดปกติหรืออาจไม่มีประจำเดือน และความรู้สึกทางเพศลดลง นั่นคืออันตรายจากยาในกลุ่มของสเตอรอยด์
ในชีวิตผู้คนทุกวันนี้ต่างดิ้นรนขวนขวายในการทำมาหากิน ในบางครั้งก็ลืมที่จะมาสนใจดูแลสุขภาพของตัวเอง เมื่อมีเหตุเจ็บป่วยขึ้นมาจึงต้องรักษาสุขภาพด้วยการไปหาหมอ หรือซื้อยามากินเอง นั่นก็เป็นทางเลือกของคนไข้ว่าจะกินยาแบบไหน แบบยาสมุนไพรหรือว่ายาแผนปัจจุบัน ทุกวันนี้มีผู้คนไม่น้อยเลยได้หันกลับมากินยาสมุนไพร เพราะไม่มีผลข้างเคียง หรือถ้ามีก็น้อยกว่ายาแผนปัจจุบันมาก ปัจจุบันยาสมุนไพรแผนโบราณนั้นมีการผลิตด้วยเครื่องจักรอันทันสมัย ทั้งในรูปแบบของยาอัดเม็ด และยาแคปซูล มีการสร้างโรงงานที่ได้มาตรฐานลงทุนกันหลายร้อยล้านบาท มีการส่งออกยาไปต่างประเทศ เพิ่มเงินตราให้กับประเทศเป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกันได้มีกลุ่มผู้มักง่ายลักลอบผลิตยา แผนโบราณ โดยไม่ได้รับอนุญาต กลุ่มผู้ผลิตเหล่านั้นมักไม่มีความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย ขาดความรับผิดชอบต่อชีวิตผู้คน จึงได้ใส่ยากลุ่มสเตอรอยด์เช่น เดกซ์ซาเมธาโซน(Dexamethasone) เพร็ดนิโซโลน (Prednisolone) ลงไป ซึ่งยาจะไปกดอาการทำให้ในช่วงแรกของการใช้จะรู้สึกว่าดีอันเนื่องมาจากสเตอรอยด์ แต่เมื่อใช้ไปนานๆ ก็จะมีโทษดังที่กล่าวมา


สาเหตุของการเกิดสิวสเตียรอยด์
 ใช้เครื่องสำอางค์ที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ 
ในผลิตภัณฑ์สำหรับบำรุงผิว ช่วยให้หน้าขาวใส ช่วยรักษาสิว ที่ไม่ได้มาตรฐานมักจะมีการผสมสารสเตียรอยด์เข้าไปในปรมาณที่สูง เนื่องจากสารสเตียรอยด์มีฤทธิ์ช่วยบำบัดอาการสิวที่เกิดได้อย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าถ้าลองใช้แล้วอาการสิวจะหายไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ ผิวใสหน้าเนียนกันเลยทีเดียว แต่หลังจากนั้นเหมือนต้องมานั่งชดใช้กรรม เพราะจะเกิดอาการที่เรียกว่า "ติดสเตียรอยด์" ขึ้นทำให้ผิวหน้าบาง และแพ้ง่ายๆมาก พอแพ้ง่ายการเกิดสิว สิวผด ผื่นแดง สิวอักเสบ สิวหนอง ก็จะตามมา ใช้ยารักษาสิวก็ไม่ค่อยหาย เพราะสเตียรอยด์มันไปเปลี่ยนแปลงสภาพผิวภายในให้ทำงานผิดแปลกไปจากเดิม น่ากลัวมากทีเดียว
เคล็ดลับการดูแลป้องกันหน้าติดสารสเตรอย 
1. ใช้ครีมบำรุงผิวหน้าที่มีความอ่อนโยน เช่น สารสกัดจากเมือกหอยทากของEndocare ที่ช่วยในการบำรุงและฟื้นฟูผิวได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก DNA ของหอยทากจะฟื้นฟูผิวหน้าที่ติดสารสเตรอยได้เป็นอย่างดี 
2. ทำจิตใจให้สบายๆ อย่าวิตกกังวล เพราะความเครียดจะกระตุ้นฮอร์โมนให้ใบหน้าเกิดสิว ฟังเพลงในแนวที่ตนเองชอบหรือหากิจกรรมทำยามว่าง จะช่วยทำให้สภาพของจิตใจดีขึ้นได้ 
3. ควรพักผ่อนให้เพียงพอ นอนให้ได้วันละ 6-8ชั่วโมง และห้ามใช้มือบีบสิวเพราะจะทำให้เกิดการอักเสบขึ้นได้ ในระหว่างวันควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้วหรือ 2ลิตร เพื่อล้างสารพิษตกค้างออกจากร่างกาย จะช่วยทำให้สิวน้อยลงได้ 
4. เลิกใช้สารสเตรอย เมื่อเลิกใช้สารสเตรอยร่างกายจะฟื้นฟูผิวหนังที่โดนทำลายเอง ซึ่งอาจใช้เวลานานอยู่หลายเดือนขึ้นอยู่กับการดูและรักษาตนของแต่ละบุคคล เมื่อร่างกายปรับสมดุลของผิวหน้าให้ดีขึ้นแล้วก็ควรเลือกใช้เซรั่มบำรุงผิว หน้าที่มีสารสกัดจาก DNA เมือกหอยทาก เช่นผลิตภัณฑ์ล้างของEndocare เพราะDNA ของหอยทากมีความคล้ายกับคนมากที่สุดจึงทำให้ช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวได้เป็น อย่างดี

  วิธีรักษาสิว สเตอรอยด์,หน้าติดสารสเตรอย,เอนโดแคร์เซรั่ม,เซรั่มรักษาสิว,เอนโดแคร์

วิธีรักษาสิว สเตอรอยด์

วิธีรักษาสิว สเตอรอยด์ สิวสเตอรอยด์ คือสิวที่เกิดจากการแพ้สารเคมีที่มีส่วนผสมของสเตอรอยด์ เมื่อใช้ไปนานๆร่างกายเกิดการต่อต้านทำให้เกิดผื่นคันและมีสิวอักเสบ ซึ่งหากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสเตอรอยด์เป็นเวลานานจะให้ภูมิต้านทาน ของร่างกายมีปัญหา ทำให้แพ้ง่ายและมีผดผื่นขึ้นตามใบหน้า และหากมีการสะสมในร่างกายมากเกินไปจะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้

สเตียรอยด์ (Steroid) เป็นชื่อเรียกโดยย่อของกลุ่มยาที่มีชื่อเต็มว่า corticosteroid ยา กลุ่มนี้มีฤทธิ์และข้อบ่งใช้มากมาย สามารถใช้ในโรคหรือภาวะต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย แต่สิ่งที่ทำให้ยากลุ่มนี้เป็นที่รู้จักมากที่สุดกลับเป็นผลเสียที่เกิดจาก การใช้ steroid อย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายคนกลัวและปฏิเสธที่จะใช้ยากลุ่มนี้ ยากลุ่มสเตียรอยด์สามารถแบ่งตามรูปแบบของการใช้ยาได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้

  วิธีรักษาสิวสเตอรอยด์

1. สเตียรอยด์ประเภทใช้ภายนอก มีตัวสเตียรอยด์ที่ใช้เป็นยาภายนอกหลายสิบชนิดด้วยกัน แต่สามารถแบ่งตามรูปแบบของยาและตัวอย่างของโรคที่ใช้ได้เป็น
  • ยาทา (ทั้งในรูปครีม โลชัน ขึ้ผึ้ง) สำหรับรักษาผื่นแพ้ ลมพิษ ผิวหนังอักเสบ สะเก็ดเงิน
  • ยาหยอดตา ยาป้ายตา ยาหยอดหู สำหรับรักษาภูมิแพ้หรืออักเสบที่ตาและหู
  • ยาพ่นจมูก สำหรับรักษาโรคภูมิแพ้ที่มีอาการทางจมูก ริดสีดวงจมูก
  • ยาพ่นคอ สำหรับรักษาโรคหืด ภูมิแพ้ที่ทำให้เกิดอาการหอบ
สเตียรอยด์ประเภทใช้ภายนอกเหล่านี้พัฒนาขึ้นเพื่อให้ยาออกฤทธิ์เฉพาะที่ โดยไม่จำเป็นต้องกินหรือฉีดยา จึงช่วยหลีกเลี่ยงผลเสียที่อาจเกิดขึ้นจากยาได้เป็นส่วนใหญ่ เมื่อได้รับยากลุ่มนี้และใช้ตามคำแนะนำการใช้ยาอย่างเคร่งครัด เช่น ใช้ยาทาเฉพาะบริเวณที่เป็นผื่น ไม่ทาลงบนผิวหนังที่ปกติ ไม่ทาหนา ไม่ทาเป็นบริเวณกว้างและไม่ทาต่อเนื่องเป็นเวลานาน ใช้ยาหยอดตา ยาป้ายตา ยาหยอดหู เฉพาะข้างที่เป็น ด้วยจำนวนหยด จำนวนครั้งและระยะเวลาตามคำสั่งใช้ยา ใช้ยาพ่นจมูกและยาพ่นคอด้วย วิธีการพ่นยาที่ถูกต้อง ไม่พ่นบ่อยเกินกว่าที่กำหนด บ้วนปากหลังพ่นคอทุกครั้ง ถ้าใช้ยาได้อย่างถูกต้องตามคำแนะนำ ยาภายนอกเหล่านี้มักจะไม่ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง และเนื่องจากความปลอดภัยของยานี้เอง ทำให้สามารถซื้อยาใช้ภายนอกที่มีตัวยา steroid ได้ที่ร้านยาทั่วไป ภายใต้คำแนะนำการใช้ยาอย่างถูกต้องของเภสัชกร

  2. สเตียรอยด์ประเภทกินและฉีด  ถึงแม้จะมีสเตียรอยด์ประเภท ใช้ภายนอกมากมาย แต่การรักษาโรคหรือภาวะบางอย่าง จำเป็นต้องใช้ยากินหรือยาฉีดเท่านั้น เช่น อาการแพ้บางชนิด โรคหืดชนิดรุนแรง โรคภูมิคุ้มกันไวเกิน ผู้ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ เป็นต้น เช่นเดียวกับยาใช้ภายนอก ถ้ากินหรือฉีดยาสเตียรอยด์ในขนาดน้อยๆ เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ มักไม่ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง แต่ถ้ากินหรือฉีดต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะก่อให้เกิดผลเสียที่รุนแรงหลายประการด้วยกัน ได้แก่ ติดเชื้อโรค (ยากดการทำงานของภูมิคุ้มกันในร่างกาย) เป็นเบาหวาน (ยาทำให้น้ำตาลในเลือดสูง) บวมและความดันโลหิตสูง (ยาทำให้ขับน้ำลดลง แต่เพิ่มการสะสมไขมันที่หน้า หลังและท้อง) กระดูกพรุน (ยารบกวนสมดุลการสร้างกระดูก) รวมทั้งเป็นแผลในทางเดินอาหาร ผิวหนังเหี่ยวย่นและบาง ตาเป็นต้อ การทำงานของต่อมหมวกไตผิดปกติ รบกวนการเจริญเติบโตในเด็ก เป็นต้น จะเห็นได้ว่าวิธีการใช้ยาสเตียรอยด์เป็นสิ่งสำคัญซึ่งผู้ใช้ยาจะต้องคำนึง ถึงมากที่สุด ว่าจะต้องใช้จำนวนมากน้อยเท่าใด ใช้ด้วยความถี่กี่ครั้งและใช้ต่อเนื่องนานเท่าใด เพราะเมื่อใดที่ใช้มากเกินกว่าที่ควร จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่ได้กล่าวมาทั้งหมด ทันที ประเด็นสุดท้ายและเป็นที่มาของอาการไม่พึงประสงค์จากสเตียรอยด์ที่สำคัญที่สุดคือ “การได้รับยาสเตียรอยด์โดยไม่รู้ตัว” ไม่ว่าจะเป็นจากยาชุด ยาลูกกลอน ยาสูตรสมุนไพร ยาต้ม ยาหม้อ ยาพระ รวมทั้งยาที่อวดอ้างสรรพคุณในการรักษาได้สารพัดโรค เนื่องจากยาเหล่านี้มักจะมีส่วนผสมของยาในกลุ่มสเตียรอยด์อยู่ ทำให้เห็นผลในการบรรเทาทุกอาการได้อย่างรวดเร็วโดยที่ไม่พบอาการไม่พึง ประสงค์ใดๆ ผู้ใช้ยาจึงมักรู้สึกพึงพอใจกับผลของยา โดยไม่ได้มุ่งรักษาที่สาเหตุของโรคโดยตรง แต่ยิ่งใช้ยาต่อเนื่องเป็นเวลานานมากขึ้นเท่าใด อาการไม่พึงประสงค์ของ steroid ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น พร้อมกับความรุนแรงของโรคที่มากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากไม่ได้รับการรักษาที่ตรงสาเหตุอย่างทันท่วงที จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาเหล่านี้โดยเด็ดขาด เอกสารอ้างอิง
  1. Bertram GK, eds. Basic and clinical pharmacology, 10th ed. New York: McGraw-Hill, 2007.
  2. Rang HP, Dale MM, Ritter JM, Moore PK. Pharmacology, 5th ed. Churchill Livingstone, 2003.
Credit : http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/142/
  หน้าติดสารสเตรอย

วิธีรักษา สิวสเตอรอยด์ เคล็ดลับการดูแล

1. ใช้ครีมบำรุงผิวหน้าที่มีความอ่อนโยน เช่น สารสกัดจากเมือกหอยทากของEndocare ที่ช่วยในการบำรุงและฟื้นฟูผิวได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก DNA ของหอยทากจะฟื้นฟูผิวหน้าที่ติดสารสเตรอยได้เป็นอย่างดี
2. ทำจิตใจให้สบายๆ อย่าวิตกกังวล เพราะความเครียดจะกระตุ้นฮอร์โมนให้ใบหน้าเกิดสิว ฟังเพลงในแนวที่ตนเองชอบหรือหากิจกรรมทำยามว่าง จะช่วยทำให้สภาพของจิตใจดีขึ้นได้
3. ควรพักผ่อนให้เพียงพอ นอนให้ได้วันละ 6-8ชั่วโมง และห้ามใช้มือบีบสิวเพราะจะทำให้เกิดการอักเสบขึ้นได้ ในระหว่างวันควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้วหรือ 2ลิตร เพื่อล้างสารพิษตกค้างออกจากร่างกาย จะช่วยทำให้สิวน้อยลงได้
4. เลิกใช้สารสเตรอย เมื่อเลิกใช้สารสเตรอยร่างกายจะฟื้นฟูผิวหนังที่โดนทำลายเอง ซึ่งอาจใช้เวลานานอยู่หลายเดือนขึ้นอยู่กับการดูและรักษาตนของแต่ละบุคคล เมื่อร่างกายปรับสมดุลของผิวหน้าให้ดีขึ้นแล้วก็ควรเลือกใช้เซรั่มบำรุงผิว หน้าที่มีสารสกัดจาก DNA เมือกหอยทาก เช่นผลิตภัณฑ์ล้างของEndocare เพราะDNA ของหอยทากมีความคล้ายกับคนมากที่สุดจึงทำให้ช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวได้เป็น อย่างดี